แต่งแล้ว! ชายที่สูงที่สุดในโลก!?

แม้ร่างกายของ "เบ๋า ซีชุน" ชายที่มีความสูงมากกว่าคนปกติทั่วไปถึง 2.36 เมตร จะแลเป็นอุปสรรคสำหรับการใช้ชีวิต

มิพักเรื่องความรักที่จะพบเจอกันได้ง่ายดายเฉกเช่นคนธรรมดา แต่ในที่สุดเขาก็พิสูจน์ให้โลกได้เห็นว่า ไม่มีอะไรในโลกใบนี้ที่เป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะกับเรื่อง "ความรัก"

เพียงความต่างกว่า 2 ฟุต

ของส่วนสูงซึ่งกันและกันระหว่าง "เบ๋า ซีชุน" ชายเลี้ยงสัตว์จากดินแดนมองโกเลียส่วนใน วัย 56 ปี เจ้าของความสูง 2.36 เมตร (7ฟุต 9 นิ้ว) ไม่เป็นอุปสรรคกับความรักของเขาที่มีต่อ "เซียะ ชูเจี้ยน" หญิงสาวพนักงานขาย วัย 28 ปี ความสูง ( 5 ฟุต 6 นิ้ว) ธรรมดาเฉกเช่นผู้หญิงทั่วไป แต่อย่างใด เมื่อทั้งคู่ร่วมหอลงโรงเข้าพิธีแต่งงานกันแล้วเรียบร้อยเมื่อหลายวันที่ผ่านมา

เจ้าสาวของเจ้าบ่าวที่เป็นเจ้าของสถิติ

ชายที่สูงที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่และได้รับการยืนยันจากกินเนสส์บุ๊กเแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ไม่เพียงส่วนสูงที่แตกต่าง ทว่าอายุก็แตกต่างกันถึงครึ่ง ทั้งคู่พบกันได้จากการค้นหาเจ้าสาวของ "เบ๋า" ไปทั่วโลก แต่สุดท้าย พรหมลิขิตก็ขีดให้ชีวิตรักของเขามาบรรจบที่บ้านเกิดของเขาเองในเมืองไชเฟง

ไม่ใช่ไกลที่ไหนอื่น

หนังสือพิมพ์ของจีนรายงานว่า "หลังจากที่ลงโฆษณาประกาศหาคู่แต่งงานไปทั่วโลก และต้องผ่านกระบวนการคัดสรรอันยาวนาน ในที่สุดความมานะพยายามก็สัมฤทธิ์ผล"

ที่บ้านเกิดของเขานั่นเอง

สำหรับร่างกายของชายที่สูงที่สุดในโลกผู้นี้ เริ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลา 7 ปี ในช่วงที่เขายังเป็นวัยรุ่น โดยแพทย์ก็ยังไม่สามารถอธิบายถึงสาเหตุได้

โดยหลังจากที่เขาไปรับใช้กองทัพ

ซึ่งเขาก็ได้ไปคัดเลือกตัวเข้าทีมบาสเก๊ตบอลที่นั่นด้วย เบ๋าก็เดินทางกลับสู่บ้านเกิด ณ ดินแดนมองโกเลียส่วนใน เพื่อประกอบอาชีพทำปศุสัตว์ และมีคนจ้างไปโชว์ตัวตามงานต่าง ๆ บ้าง

และเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ชื่อของ "เบ๋า ซีชุน" ก็ตกเป็นข่าวดังอีกครั้ง เมื่อเขาสามารถช่วยชีวิตปลาโลมาสองตัวด้วยมือเปล่าไว้ได้ โดยการที่เขาใช้ท่อนแขนอันยาวเหยียดของเขาที่ยาวถึง 1.06 เมตร! ล้วงลงไปในกระเพาะของปลาโลมา

เพื่อดึงเอาเศษถุงพลาสติก

ที่ปลาโลมาตอดเข้าไปจากริมขอบสระในสวนน้ำแห่งหนึ่งในมณฑลเลียวหนิง ได้สำเร็จ และจากความพยายามที่จะผ่าตัดนำพลาสติคออกจากกระเพาะปลาโลมาทั้งสองนั้นล้มเหลว เนื่องจากกระเพาะนั้นแคบเกินกว่าที่จะรับกับอุปกรณ์ในการผ่าตัดได้.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์