หนุ่มหนี้สินท่วม-ประกาศขายดวงตา

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. นายจักรกฤษ ศิลธรรม อายุ 31 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 3/2 หมู่ 4 ตำบลท่าทอง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย

ได้ประกาศขายดวงตา 1 ข้าง

เพื่อนำเงินไปใช้หนีสินนอกระบบจำนวน 8 หมื่นบาท ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่บ้านเช่าเล็ก เลขที่ 512/788 ซอย 6 ภายในหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี หมู่ 1 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยนายจักรกฤษเพิ่งเดินทางกลับมาจากทำงานที่สำเพ็ง

นายจักรกฤษเปิดเผยว่า

ตนเรียนจบชั้น ม.3 ที่โรงเรียนในอำเภอสวรรคโลก มีพี่น้อง 3 คน เสียชีวิตไป 1 คน ตนเป็นคนโต ปัจจุบันยังไม่มีครอบครัว เดินทางมาหางานทำในกรุงเทพฯ เพื่อหาเงินช่วยพ่อแม่ โดยมาเช่าห้องอยู่เดือนละ 1,700 บาท ตอนแรกทำงานอยู่ฝ่ายอาหารของโรงพยาบาลชื่อดังย่านสะพานควาย ออกมาค้าขาย

โดยกู้เงินนอกระบบมาลงทุน

ซื้อเสื้อผ้าจากโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ มาขายตามตลาดนัดต่างๆ บางครั้งก็อาศัยรถเพื่อนบรรทุกเสื้อผ้าไปขาย บางครั้งก็จ้างรถแท็กซี่ ในตอนแรกก็กู้เพียง 4,000 บาท ส่งวันละ 600 บาท บางวันขายไม่ได้ก็ต้องส่งเท่าที่มี แต่จำนวนดอกเบี้ยก็เพิ่มเป็นเท่าตัว

จนไม่สามารถหาเงินมาไล่ทันดอกเบี้ย

จนมีหนี้สินพอกพูนมากขึ้นเกือบ 8 หมื่นบาท วันไหนไม่ได้ไปขายเสื้อผ้าหรือมีตลาดนัด ก็จะไปรับจ้างยกของขึ้นให้กับลูกค้าที่ตลาดสำเพ็ง แต่ก็หารายได้ไม่พอส่งเงินต้นและดอกเบี้ย

นายจักรกฤษกล่าวว่า

วันเดียวกันนี้ได้เงินมา 500 บาท ส่งเงินกู้ได้เพียง 420 บาท เหลือเพียง 70 บาท เป็นคารถและค่ากินในวันพรุ่งนี้ที่จะไปทำงาน จึงตัดสินใจประกาศขายดวงตาข้างใดข้างหนึ่งในราคา 120,000 บาท เพื่อนำมาใช้หนี้เงินนอกระบบ

ส่วนที่เหลือก็จะนำไปถ่ายที่ดิน

ให้กับคุณพ่อที่จำนองไว้กับสหกรณ์เพื่อส่งลูกเรียน เพราะว่าเป็นเวลานานแล้วดอกเบี้ยก็เยอะ ซึ่งทางบ้านก็ไม่มีรายได้อะไร ตนรู้สึกสงสารพ่อ ซึ่งตาพิการข้างหนึ่ง อยากให้พ่อได้ที่ดินคืน จึงตัดสินใจประกาศขายดวงตา

นายจักรกฤษกล่าวต่ออีกว่า

ปัจจุบันทั้งพ่อและแม่ก็ไม่ค่อยจะสบาย แม้ว่าดวงตาของตนจะไม่เห็นเพียงข้างหนึ่ง แต่ก็จะทำให้คนอีกคนหนึ่งได้เห็นโลกใบนี้ ได้เห็นญาติพี่น้องได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างในโลกใบนี้เหมือนกับที่ตนได้เห็น มีลูกตา 1 ดวง ก็เห็นโลกเหมือนกัน มีลูกตา 2 ดวง ก็เห็นโลกเหมือนกัน อยู่ที่ใจของเราว่าจะทำดีได้อย่างไร ก็ขอวอนผู้ใจบุญได้เห็นถึงความตั้งใจที่จะทำ และตัดสินใจที่แน่วแน่ ไม่เคยคิดที่จะขอเงินใครฟรีๆ เงินที่ได้มาจากหยาดเหงื่อแรงกายถือว่าเป็นเงินที่บริสุทธิ์

"ถึงแม้ว่าจะมีผู้ใจบุญ

ผมก็ต้องให้อะไรเป็นของแลกเปลี่ยนไม่คิดที่จะเบียดเบียนใคร อย่างเงินนอกระบบที่กู้เขามา ก็ต้องใช้คืนเขาไม่เคยคิดที่จะโกงเขาทำมาหากิน พ่อแม่บอกว่าไม่อยากให้ลูกพิการ ก็บอกกับพ่อแม่ว่าไม่อยากเป็นหนี้เป็นสินใคร อยากให้พ่อได้ที่ดินกลับคืนมาก็พอใจแล้ว ส่วนเงินที่เหลือเพียงเล็กน้อยก็จะนำมาลงทุนขายก๋วยเตี๋ยวในหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี เพื่อต่อสู้ชีวิตต่อไป" นายจักรกฤษกล่าว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด