เพื่อตรวจสอบเหตุก้อนหินขนาดยักษ์ น้ำหนักประมาณ 5 ตัน กลิ้งตกลงมาจากภูเขาสูงประมาณ 50 เมตร เสียงดังสนั่นราวกับฟ้าถล่มลงมา จนทำให้ห้องโถงขนาดใหญ่บริเวณหน้าถ้ำพระพุทธโกษีย์ ซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บวัตถุมงคล เก็บข้าวของ ปรุงอาหาร และล้างจาน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่โชคดีขณะเกิดไม่มีใครอยู่ในจุดดังกล่าว จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ขณะที่ พระอาจารย์ประสูติ ปิยธัมโม (หลวงพ่อประสูติ) เจ้าอาวาสวัดในเตา และพระภิกษุ-สามเณร กำลังจำวัด โดยที่บริเวณหน้าวัดกำลังมีการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ จู่ๆ ก็มีเสียงดังสนั่นหวั่นใหวขึ้นที่บริเวณห้องโถงหน้าถ้ำ ซึ่งตอนแรกทุกคนนึกว่าเป็นเสียงรถชนกันที่บริเวณหน้าวัด แต่เมื่อมาตรวจสอบในภายหลังจึงทราบว่า มีก้อนหินขนาดยักษ์ถล่มลงมา แต่ในช่วงแรกไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปใกล้ เพราะเกรงจะได้รับอันตราย
โดยพบว่า จุดที่เสียหายมากที่สุดก็คือ ตัวแผ่นพื้นเพดาน ที่ก่อสร้างด้วยปูนซิเมนต์ ได้ก้อนหิน 3 ก้อน กระแทกลงมาใส่อย่างแรง ซึ่งหินก้อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด จะมีน้ำหนักมากถึง 5 ตัน ขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร และสูง 1 เมตร แถมยังยังยุบลงไปในพื้นที่ดินอีกถึง 1 เมตร จนทำให้แผ่นพื้นเพดาน พังเป็นรูโหว่ขนาด 3X4 เมตร เป็นที่หวาดเสียวแก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
แต่โชคดีที่มิได้เป็นตัวรองรับน้ำหนัก จึงไม่ส่งผลให้อาคารยุบมาทั้งหมด และยังส่งผลให้ฝาผนัง พังยุบลงไปประมาณ 8 เมตร รวมทั้งตัวหนอนปูพื้น และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในวัดในเตา ยังถูกแรงก้อนหินกระแทกจนเสียหายอีกเป็นจำนวนมาก รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท นับเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดมาจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักหลายวัน เมื่อดินบนภูเขายุบตัว จึงส่งผลให้ก้อนหินขนาดยักษ์ร่วงหล่นลงมาดังกล่าว
พร้อมด้วย นายประเสริฐ ศรีแก้ว นายก อบต.ในเตา ได้นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุบริเวณหน้าปากถ้ำวัดในเตา พร้อมสั่งปิดกั้นพื้นที่โดยรอบ และสั่งห้ามเข้าไปใกล้โดยเด็ดขาด เนื่องจากการตรวจสอบบริเวณภูเขาด้านบนพบว่า พบก้อนหินขนาดยักษ์ ประมาณ 2-3 ก้อน ที่ได้ร่วงลงมาติดอยู่บริเวณหน้าผา ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการร่วงหล่นลงมาข้างล่างได้อีก หากยังคงเกิดฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่องเช่นนี้