วันที่ 9 เม.ย. ผู้สื่อข่าวข่าวสด จ.ร้อยเอ็ด รายงานว่า พื้นที่ลำน้ำชีที่ผ่านจังหวัดร้อยเอ็ด
จากอำเภอจังหาร อำเภอเชียงขวัญ อำเภอโพธิ์ชัย อำเภอธวัชบุรี อำเภอทุ่งเขาหลวง อำเภอเสลภูมิ อำเภออาจสามารถ และอำเภอพนมไพร พื้นที่การทำนาปรัง กว่า 1 แสนไร่ น้ำเริ่มแห้งขอดเนื่องจากสูบน้ำไปทำนาปรังเกินเกณฑ์ที่กำหนด ลำชีเดินข้ามไปมาได้ จึงเดินทางไปพิสูจน์ พบว่า ลำน้ำชี ที่มีแต่ทราย ระดับน้ำขาดเป็นช่วงๆ เด็กลงเล่นน้ำในลำน้ำชีวิ่งเล่นในน้ำระดับน้ำลึกแค่ครึ่งแข้งเด็กเท่านั้น
นอกจากนั้นเป็นหาดทรายเป็นวงกว้าง หนักสุดตั้งแต่บ้านหัวโนน บ้านธวัชดินแดงงิ้ว บ้านไผ่ ต.ธงธานี
ฝั่งตรงข้าม บ้านหนองสิม บ้านหนองแดง ตำบลท่าม่วง อำเภอเสลภูมิ น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค ทำน้ำประปาหมู่บ้าน เรือแพเกยตื้น โรงสูบน้ำด้วยไฟฟ้า สูบน้ำไม่ได้ ข้าวนาปรังหลายหมื่นไร่ ต้องรอวันแห้งตาย ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำการประมง จับปลาลำน้ำชีจำหน่ายเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัวเริ่มหมดหวัง เป็นปีที่ระดับน้ำน้ำชีตื้นเขินมากที่สุดในรอบ 20 ปี สิ่งที่มีชีวิต หรือ สัตว์น้ำ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงหรือสูญพันธุ์ ปลาน้ำจืด ปลาน้ำชี ต้องหายไปจากธรรมชาติ
ขณะเดียวกัน แพอาหาร 4 แห่งตามลำน้ำชี ประกอบด้วย เกสินี, ตาพูน, โนเนม ,บิวตี้ ต้องปิดกิจการไปแล้ว 2 แห่ง คือ โนเนม และบิวตี้ เพราะเจอปัญหาการขาดทุนไม่มีลูกค้าเนื่องจากแพเกยตื้นและไม่มีน้ำให้เล่นยาง ซึ่งปกติแต่ละแห่งมีรายได้ 4-5 หมื่นบาท ต่อวัน แต่วันนี้มีรายได้เพียง 1-2 พันบาทต่อวันเท่านั้น โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ 11-17 เมษายน ทุกปี มีรายได้นับแสนบาทต่อวัน แต่ปีนี้สิ้นหวังแล้ว