นายสราวุฒิ ปาลวัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เลย
เปิดเผยว่า ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดเลยได้ประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากฝนทิ้งช่วงมาเป็นเวลานานกว่า 4 เดือน กำลังย่างเดือนที่ 5 ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เลย ซึ่งเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้ออกประกาศประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินโดยเกิดภัยแล้งแล้ว 5 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองเลย , หนองหิน , เอราวัณ , ภูหลวง อำเภอวังสะพุง
ล่าสุด ได้ประกาศประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินโดยเกิดภัยแล้งเพิ่มอีก 2 อำเภอ คือ
อำเภอท่าลี่ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 27,459 คน 9,407 ครัวเรือน พืชไร่เสียหาย 2,040 ไร่ สวน 1,952 ไร่ ความเสียหายเบื้องต้น 9,658,000 บาท และอำเภอเชียงคาน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 23,250 คน 7,750 ครัวเรือน พืชไร่เสียหาย 2,100 ไร่ สวน 1,200 ไร่ ความเสียหายเบื้องต้น 6,436,700 บาท รวมพื้นที่ประสบภัยแล้ง 7 อำเภอ จากทั้งจังหวัด 14 อำเภอ ซึ่งทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เลย ได้ประสานงานกับที่ทำการปกครองแต่ละอำเภอสั่งการให้สมาชิก อส. พร้อมทั้งประสานผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว และภัยพิบัติดังกล่าวยังไม่ยุติ
ภาวะดังกล่าว ทำให้พื้นที่การเกษตรส่วนใหญ่ที่อยู่ห่างจากพื้นที่ชลประทานนั้น ต้องแห้งเหี่ยวตาย เพราะไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยง สำหรับพื้นที่เก็บน้ำต่างๆ ก็มีน้ำกักเก็บอยู่น้อย บางพื้นที่ไม่มีน้ำหลงเหลืออยู่เลย เตือนไปยังเกษตรกร ให้ปลูกพื้นที่รักษาดินและใช้น้ำน้อย