คนราชบุรีอ่วม หลังเขื่อนท่าม่วงปล่อยนํ้า ซ้ำน้ำทะเลหนุน
จากกรณีที่เขื่อนท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการปล่อยน้ำลงมาในแม่น้ำแม่กลอง ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ได้ไหลมาสู่จังหวัดราชบุรี ก่อนไปออกทะเลที่จ.สมุทรสงคราม ในปริมาณกว่า 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งส่งผลให้บ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำแม่กลองและพื้นที่ต่ำ พื้นที่เกษตร ส่วนส้มโอ ลิ้นจี่ มะนาว กล้วย และพืชผลทางการเกษตรตั้งแต่อำเภอบ้านโป่ง อำเภอโพธาราม อำเภอเมืองและไปถึงอำเภอวัดเพลง ได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วมประกอบกับเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เกิดน้ำทะเลหนุนขึ้นมาจึงทำให้ปริมาณน้ำที่ท่วมขังอยู่แล้วยิ่งสูงขึ้นมาอีกกว่า 2 เมตร ประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำแม่กลองทั้งสองฝั่งหลายร้อยครัวเรือนต่างต้องอพยพข้าวของหนีน้ำขึ้นมาอยู่ที่สูง
วันนี้ ( 11 ต.ค.) นางศมานันท์ เหล่าวณิชวิศิษฎ นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ในการสำรวจความเสียหายจากอุกทกภัยในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองราชบุรี พร้อมกับแสดงความเป็นห่วงประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งอยู่ใกล้กับแม่น้ำแม่กลอง รวมถึงชุมชนตลาดราชบุรี เกรงว่าอาจจะถูกน้ำท่วม หากเขื่อนท่าม่วงปล่อยน้ำมามากกว่านี้ พร้อมทั้งสั่งให้เจ้าหน้าที่เฝ้าดูสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตั้งเต็นท์ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับระดมกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันและสาธารณภัยของเทศบาลเมืองราชบุรีได้ช่วยกันนำกระสอบทรายมากั้นพร้อมสูบน้ำออก แล้วในเบื้องต้น
นายคณิต ชินวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานราชบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำแม่กลองตอนนี้มีน้ำขึ้นมาอีกประมาณ 50-60 เซนติเมตร ทำให้ได้รับผลกระทบกับชาวบ้านที่อยู่ริมตลิ่ง ที่ลุ่มต่ำ ทั้งอำเภอบ้านโป่ง อำเภอโพธาราม อำเภอเมือง สำหรับอำเภอเมืองที่จะมีผลกระทบได้แก่ ตำบลคุ้งกระถิน ตำบลคุ้งน้ำวน และเขตเทศบาลเมือง และล่าสุดก็ทราบว่าปริมาณในในเขื่อนแม่กลองก็ระบายลดลงแล้ว จากที่เมื่อวานระบายอยู่ที่ เกือบ 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตอนนี้ได้ระบายเหลือ 1,000 ลูกบาศก์เมตร คาดว่าภายในวันนี้ จะทำให้ปริมาณน้ำลดลงไป 70-80 เซนติเมตร แต่ส่วนบริเวณท้ายของตัวเมืองราชบุรีซึ่งอยู่ในพื้นที่ท้ายน้ำยังได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุน คาดว่าประมาณ 1-2 วันปริมาณน้ำน่าจะลดลงอาจจะเข้าสู่สภาวะปกติ