แฉเล่ห์ลวงขายมือถือไอโฟนรุ่นดัง
ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ได้รับทราบเรื่องราวร้องเรียนของผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟน 4 เอส ผ่านทางเว็บไซต์มั่นคงเก็ดเจ็ต ซึ่งมีเหยื่อที่ถูกหลอกเป็นจำนวนมาก และได้มีการโพสต์ข้อความแฉเล่ห์ร้ายต่างๆ ของการ หลอกขายจนกระฉ่อนรับรู้ไปทั่ว ประกอบกับมีการแสดงความคิดเห็นเรื่องที่ถูกหลอกกว่า 5 พันคอมเม้นท์
จากการตรวจสอบที่มาที่ไปของข่าวภัยร้ายทางโลกออนไลน์ พบว่า เรื่องราวดังกล่าวเริ่มมาตั้งแต่ต้นปี 2555 จนถึงปัจจุบันนี้ก็เป็นเวลากว่า 8 เดือนแล้ว ทั้งนี้จากจุดเริ่มต้นที่เว็บไซต์มั่นคงเก็ดเจ็ต (www. munkonggadget.com ) เว็บไซต์สังคมออนไลน์ ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนความรู้ และซื้อขายสินค้ามือสองด้านไอทีชื่อดัง กับกรณีการหลอกลวงขายโทรศัพท์มือถือไอโฟน4 เอส ผ่านทางเว็บไซต์ โดยหลังจากที่ผู้เสียหายโอนเงินไปแล้ว ผู้ต้องหาก็จะใช้เบี่ยงเบนไม่ยอมจัดส่งโทรศัพท์มือถือให้ผู้ซื้อตามที่ประกาศขาย
สำหรับคดีนี้ผู้ต้องหาใช้วิธีการโกงโดยการอ้างชื่อผู้อื่นในการติดต่อซื้อขายกับผู้เสียหายตั้งแต่ครั้งแรก ก่อนจะอ้างเลขส่งพัสดุปลอม(เลขอีเอ็มเอส) เพื่อบอกว่า ใช้ส่งของมายืนยันกับคนในเว็บไซต์และผู้เสียหาย ถือเป็นการแสดงเจตนาไม่บริสุทธิ์อย่างชัดเจน ทำให้คนในสังคมออนไลน์ทั้งขาประจำและขาจรของเว็บไซต์นี้เข้ามาแสดงความเห็นและเริ่มช่วยกันสืบหาความจริงเกี่ยวกับผู้ต้องหารายนี้ แต่ผู้ต้องหาก็ยังพยายามเข้ามายืนยันความใสสะอาดของตนเอง โดยการกล่าวอ้างเหตุผลต่างๆ อยู่ตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์รายงานต่อมาว่า จนเวลาผ่านเลยมาระยะหนึ่งทางผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิด แต่ด้วยความที่ไม่รู้ตัวตนที่แน่ชัดของผู้ต้องหา เนื่องจากมีการหยิบยกบุคคลที่สาม ที่สี่ มากล่าวอ้างตัวตน ทำให้เอาผิดได้ยาก แต่ด้วยความช่วยเหลือของคนในสังคมออนไลน์ซึ่งเข้ามาใช้บริการในเว็บไซต์มั่นคงเก็ดเจ็ตเป็นประจำ ทำให้สามารถระบุตัวตนของผู้ต้องหาได้ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่สามารถนำผู้ต้องหามารับทราบความผิดหรือดำเนินคดีตามกฎหมายได้ เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ซึ่งระหว่างนี้อยู่ในขบวนการที่ผู้เสียหายแจ้งดำเนินการเอาความผิดต่อผู้ต้องหา และได้มีการโต้เถียงระหว่างชาวสังคมออนไลน์ที่ต้องการจับตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี กับผู้ที่แอบอ้างว่าเป็น เพื่อน ญาติ และผู้ที่เข้าข้างฝ่ายผู้ต้องหาอยู่เป็นระยะ
เรื่องราวผ่านเวลามานานกว่า 6 เดือน การสืบคดีของชาวสังคมออนไลน์ในเว็บบอร์ดต้นเรื่องยังดำเนินต่อไป และทางทีมงานที่ช่วยกันสืบหาความจริงได้เปิดเผยหลักฐานชิ้นสำคัญทางเว็บบอร์ดอีกครั้ง ซึ่งเป็นพัสดุลึกลับส่งถึงผู้เสียหาย หลังจากผู้เสียหายเปิดกล่องดูต่อหน้าตำรวจชั้นผู้ใหญ่ซึ่งเป็นพยาน พบว่าภายในกล่องบรรจุโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน4 เอส สีขาวของปลอม ใส่มาในกล่องพร้อมอุปกรณ์ครบชุด นำมาซึ่งการติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดในสำนักงานไปรษณีย์สาขาที่ทำการส่งพัสดุกล่องนั้น จึงสามารถระบุตัวตนผู้ส่งพัสดุได้อย่างชัดเจน และคาดว่าจะเป็นผู้ต้องหาที่มาส่งพัสดุด้วยตนเอง
หลังจากจำนนด้วยหลักฐานและแรงกดดันจากสังคมออนไลน์ ผู้ต้องหาได้โพสต์ข้อความสารภาพผิดในสิ่งที่ได้กระทำทั้งหมด และวอนขอผู้เสียหายอภัยให้ แต่ด้วยเรื่องราวที่ติดตามกันมาอย่างยาวนาน แสดงให้เห็นว่า ผู้ต้องหาไม่มีความสำนึกที่จะรับผิดชอบการกระทำตั้งแต่แรก ส่งผลให้ผู้เสียหายต่างไม่พอใจ และต้องการแจ้งความดำเนินคดีเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด แทนการยอมความและส่งมอบเงินคืนตามที่ผู้ต้องหาต้องการ เพื่อให้ผู้ต้องหาได้รับโทษตามกฎหมายที่สมควรจะได้รับ และให้เป็นกรณีตัวอย่างแก่ประชาชนทั่วไป
ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ได้สัมภาษณ์ พ.ต.อ.ศิริพงษ์ ติมุลา รอง ผบก. ปราบปรามการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ต่อกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นว่า ทางตำรวจ ปอท.เพิ่งได้รับข้อมูลจากที่ทางสื่อมามอบให้ จึงขอเวลาตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดที่อยู่ในกระทู้ว่า มีข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมีตัวตนหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ผู้เสียหายที่แท้จริงยังไม่ได้เดินทาเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับทางตำรวจ ปอท. มีเพียงแต่สื่อนำข้อมูลมาให้ตรวจสอบ อย่างไรก็ดีหากตรวจสอบแล้วพบว่า บุคคลต้อสงสัยที่อยู่ในเว็บไซต์ดังกล่าว โกงจริงก็จะเข้าข่ายคดีอาญา ข้อหาฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากมีผู้เสียหายหลายคนด้วยกัน อย่างไรก็ดีอยากให้ทางผู้เสียหายตัวจริงเดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ที่ บก.ปอท. ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อาคารบี ชั้น 4 ถนนแจ้งวัฒนะ หรือเข้าไปแจ้งเบาะแสข้อมูลได้ที่ www.tcsd.in.th