เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นายพินิจ เจริญพานิช ผวจ.ชุมพร กล่าวถึงสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ว่า
หลังจากมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากใน 5 อำเภอ 15 ตำบล 52 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.เมืองชุมพร อ.ท่าแซะ อ.สวี อ.ทุ่งตะโก และอ.พะโต๊ะ โดยเฉพาะในอ.เมืองและอ.สวี ที่บางจุดระดับน้ำยังท่วมสูงอยู่ แต่ล่าสุด อ.หลังสวน เริ่มมีน้ำป่าไหลหลาก จนชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างกว่า 200 คน และอพยพชาวบ้านไปยังพื้นที่ปลอดภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สำหรับบริเวณ ถ.สายเอเชีย 41 ช่วงสามแยกหนองพรหม อ.สวี ระดับน้ำที่ท่วมขังเริ่มเพิ่มสูงขึ้น 30 ซ.ม. เป็นระยะทางประมาณ 200 เมตร ส่งผลให้รถเล็กต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากกระแสน้ำรุนแรงและเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งบางช่วงการจราจรยังติดขัด
ที่จ.สุราษฎร์ธานี เกิดน้ำป่าคลองยัน เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงไหลเข้าท่วมพื้นที่ ต.ตะกุกใต้ อ.วิภาวดี ระดับน้ำสูงประมาณ 3-5 เมตร
ส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่ ม.1, 2, 3, 4, 5, 7, 9 ประมาณ 300 ครัวเรือน กว่า 2,000 คน ต้องอพยพหนีออกจากพื้นที่ไปอาศัยอยู่ที่ปลอดภัย โดยเฉพาะพื้นที่บ้านไร่ยาว ม.3 และพื้นที่บ้านปากกลาง ม.4 ต.ตะกุกใต้ ระดับน้ำไหลท่วมสูงประมาณ 5 เมตร ทำให้บ้านชั้นเดียวถูกน้ำท่วมจมมิดหลังคา และถนนสายวิภาวดี-คีรีรัฐ ถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง
ส่วนที่ อ.คีรีรัฐนิคม ถูกน้ำไหลท่วมอีก 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.ย่านยาว ต.ท่ากระดาน ต.น้ำหัก และต.บ้านยาง
ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 50 หมู่บ้าน ประมาณ 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ระดับน้ำสูง 3-5 เมตรเช่นกัน ทำให้ต้องอพยพออกจากพื้นที่ นอกจากนี้ ถนนภายในหมู่บ้านยังถูกตัดขาดและคอสะพานบางจุดเริ่มทรุด