วันนี้ (5 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสมหมาย แสงเดือน ผู้ใหญ่บ้านหมู่1 ต.ไทรน้อย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
ว่าแนวตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ หมู่ที่1-2 ต.ไทรน้อย ที่พื้นที่เชื่อมติดกันได้ทรุดตัวลงเป็นทางยาวเกือบ500 เมตร ชาวบ้านหลายครัวเรือนต่างหวดผวาเกรงว่าบ้านจะพังทลายลงไปในแม่น้ำ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าที่หน้าบ้านนายเอนก เทียนทอง อายุ51 ปี บ้านเลขที่39 หมู่ 2 ต.ไทรน้อย ซึ่งมีบ้านปลูกอยู่ริมตลิ่งที่พังทลายลงแม่น้ำเจ้าพระยา มีแนวดินที่ทรุดตัวลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาลึกลงไปประมาณ10 เมตร ทำให้สวนกล้วย และพืชสวนครัวที่ปลูกอยู่พังทลายหายไปในแม่น้ำจำนวนมาก แนวตลิ่งที่ทรุดตัวเหลือเพียงอีก4เมตรจะถึงตัวบ้าน
นายเอนกกล่าวว่าหลังน้ำท่วมใหญ่แนวตลิ่งได้ทรุดตัวติดต่อกันมาตลอดพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยากว่า5 ไร่ปัจจุบันเหลือเพียง1งาน
กอไผ่ขนาดใหญ่ที่ปลูกไว้ 4 กอทรุดตัวลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาหมดแล้ว บ้านของตนเองอยู่ด้วยความผวาไม่รู้ว่าจะพังลงไปอีกเมื่อไรกลางคืนนอนกันไม่หลับ ต้องหมุนเวียนกันนอนกับหลานคอยเฝ้าดูการทรุดตัวของตลิ่ง สาเหตุส่วนใหญ่มาจากเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ มาจากจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง ที่บรรทุกกากน้ำตาล บรรทุกข้าว บรรทุกทรายบรรทุกดินเดินเรือผ่าน ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เกิดเป็นร่องน้ำลึกเมื่อน้ำลดลงทำให้ตลิ่งพังลงตามไปด้วย อยากให้ทางราชการเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาโดยด่วน จะดีดบ้านและเคลื่อนหนีแนวตลิ่งที่พังแต่ที่ดินที่เหลืออยู่ไม่เพียงพอไม่ที่ดินที่อื่นแล้วไม่รู้จะย้ายหนีไปไหน
นายสมหมาย กล่าวว่าชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้านประมาณ500 กว่าหลังคาเรือนที่อยู่ตามริมแม่น้ำมีเกือบ100หลังคาเรือนกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก
จากแนวตลิ่งที่พังได้ทำเรื่องเสนอไปที่เทศบาลตำบลบางบาลและอำเภอบางบาลแต่งบประมาณมีไม่เพียงพอ จึงเสนอเรื่องไปที่กรมเจ้าท่าและกรมชลประทานให้เข้ามาช่วยกันมาแก้ไขแต่ปรากฎว่าเรื่องนี้หายไปอยากเรียกร้องให้รัฐบาลได้ส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลโดยด่วนก่อนที่บ้านเรือนประชาชนจะพังลงไปในแม่น้ำ..