หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหว ที่บริเวณชายฝั่ง ทางตอนเหนือของเกาะสุมตรา ที่บริเวณ 0.87 องศาเหนือ 92.40 องศาตะวันออก ขนาด 5.6 ริกเตอร์
และรู้สึกได้ที่จังหวัดภูเก็ต จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มประชาชนและนักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณชายหาดป่าตอง อำเภอกะทู้และพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนใหญ่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการไหวสะเทือนในครั้งนี้ มีความรุนแรง แต่เกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วินาที ต่างพากันขับขี่ ยานพาหนะชนิดต่างๆ อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงบริเวณชายหาดไปตามเส้นทางที่ทางราชการติดตั้งป้ายเตือนภัยสึนามิหรือ เส้นทางหนีคลื่นยักษ์สึนามิ( Tsunami Evacuation Route ) เอาไว้ และบางส่วนเดินทางกลับบ้านพัก และนักท่องเที่ยวเดินทางกลับโรงแรมที่พัก
อย่างไรก็ดีมีประชาชนและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ อพยพขึ้นไปอยู่ที่ถนนสายป่าตอง-กะทู้ บริเวณควนเขาป่าตอง
เทือกเขากมลา ถนนครองสิริราชย์ 50 ปี ในซอยนาใน ป่าตอง พื้นที่ไหล่เขา สายป่าตอง –หาดไตรตรังค์ รวมทั้ง เส้นทางรอบเกาะสายป่าตอง –กะรน ทางตำรวจและอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ตลอดจน อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างประเทศ ต้องระดมกำลัง มาช่วยแจ้งเตือน ให้ออกห่างจากชายฝั่ง และอำนวยการจราจร ให้มีความคล่องตัว
ทั้งนี้กลุ่มผู้อพยพทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ไปอยู่ในพื้นที่สูง จนถึงเวลาประมาณ 18.30 น. เมื่อมีเจ้าหน้าที่ มาแจ้งว่า
สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย ซึ่งทำให้ผู้อพยพ คลายความหวาดวิตก และเริ่มทยอย เดินทางกลับ ที่พักและโรงแรม อย่างไรก็ดี ยังคงมีประชาชนและนักท่องเที่ยว อยู่บนที่สูง บางส่วน
นาย ชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า
สำหรับพื้นที่ป่าตอง รู้สึกได้ว่ามีแผ่นดินไหว ทั้งประชาชนที่อาศัยตามบ้านเรือนและบนอาคารสูง เป็นชั่วระยะเวลาสั้นๆ ประมาณครึ่งนาที แต่ก็ทำให้ประชาชนบางคนแตกตื่น ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของเทศบาลเมืองป่าตอง นำรถกระจายเสียง ไปแจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวตามหน้าหาดว่า เหตุการณ์ปกติ ขอให้นักท่องเที่ยวและประชาชนอย่าได้แตกตื่นขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารทางราชการอย่างใกล้ชิด
ส่วนของผู้ที่อพยพมาอยู่ที่ศาลากลาง จ.ภูเก็ต รายหนึ่งซึ่งมีบ้านเรือนตั้งอยู่ที่บริเวณเกาะสิเหร่ อ.เมืองภูเก็ต
บอกว่าค่อนข้างตกใจกับสถานการณ์ในครั้งนี้เนื่องจากสามารถรับรู้ความรู้สึกได้ค่อนข้างมากกว่าเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมาจึงได้เก็บสิ่งของสำคัญพร้อมครอบครัวมาอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตเพื่อรอดูสถานการณ์ แม้ว่าจะมั่นใจระบบเตือนภัยของส่วนราชการแต่ก็เพื่อความไม่ประมาทและได้ต้องรอให้เสียงเตือนภัยดัง เมื่อเรารับรู้ได้ก็ต้องพาตัวเองมาอยู่ที่ปลอดภัยก่อน