เตือนไทยเจอสึนามิโจมตีสูง 10 เมตร

วานนี้ ( 22 ก.พ ) ที่มหาวิทยาลัยเกริก ในงานสัมมนาทางวิชาการ หัวข้อ “การบริหารจัดการน้ำกับอนาคตของประเทศไทย”
 
โดยนายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาและประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการ กยน.กล่าวว่า คนไหนทายได้ว่าปีนี้น้ำท่วมอีกหรือไม่ ถ้าทายได้ยิ่งกว่าผู้วิเศษ เพราะไม่มีระบบเทคโนโลยีใดเอาชนะธรรมชาติได้  พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งเสมอว่าต้องอยู่ให้ได้กับธรรมชาติ   ต้องใส่ใจดินน้ำลมไฟรอบๆตัว  รับสั่งเรื่องน้ำมา 16 ปีแล้วไม่มีใครทำอะไรเลย ตอนนี้มาบ่น พระเจ้าอยู่หัว ทรงสอนหมดทุกอย่าง ให้รู้รักสามัคคี ท่านทรงทำวิจัยจนนำไปสู่ความรู้ความเข้าใจ คำแรกก็รู้คำที่สองก็เข้าใจ ไม่รู้ไม่เข้าใจทำกันอยู่ทุกวันนี้ ใช้ความไม่รู้ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคมจนบ้านเมืองวุ่นวายไม่รู้จบ

นายสุเมธ กล่าวว่าใครเจอหน้าตนถามประโยคนี้ปีหน้าน้ำท่วมไหม  ตนก็บอกว่ามีเรือผูกไว้ ปลากระป่องก็เตรียมไว้ 

 เตรียมการณ์สำหรับชีวิตไว้บ้าง เพราะลักษณะของพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมและน้ำแล้งเป็นที่เดียวกัน ใช้งบน้ำท่วมยังไม่เสร็จตั้งงบน้ำแล้งเลย ต้องนำเป็นบทเรียนอยู่ให้ได้บริเวณแล้งมันเคยมีน้ำ เพราะฉะนั้นระหว่างมีกับไม่มี เศรษฐกิจพอเพียงใช้ได้ มันมีอยู่ทำให้ไม่มีได้อย่างไร ต้องทำให้อยู่ในจุดพอประมาณ เศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัว ให้ได้ทุกอย่าง การเมืองทะเลาะทุกวันนี้เพราะไม่พอเพียง เพราะมันโลภมาก


“ปริมาณน้ำจริงๆของประเทศ  ฝนทุกร้อยหยดทั้งประเทศน่าเศร้ามาก ที่เก็บไว้ได้เพียง 5.9 หยด ที่เหลือทิ้งหมด เราเป็นประเทศเศรษฐกิจการเกษตร ข้าวกินน้ำมากพืชอื่น 10 เท่า เราเก็บได้ 5.9 หยด พอจะสร้างเขื่อนนักอนุรักษ์ทั้งหลายออกมาไม่ให้สร้าง  ฝนตกทั้งประเทศมี 7.5 แสนล้านลูกบาศก์เมตร เก็บไว้ได้ในอ่าง 4.4 หมื่นล้านเท่านั้น ถ้าเก็บได้ 10 ส่วนคนไทยรวยไม่รู้เรื่อง  เราจะสร้างความมั่นคงได้ น้ำเหมือนเงิน มีเยอะเราต้องฝากธนาคารไว้ เอามาใช้ตอนไม่มี หลักของมันเท่านี้ เรื่องสร้างเขื่อนต้องทุบโต๊ะ  การแก้ปัญหาน้ำนั้นพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งให้หาทางให้เข้าไปอย่าไปขวางไปกั้น ”นายสุเมธ กล่าว
    


เตือนไทยเจอสึนามิโจมตีสูง 10 เมตร

เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวว่า ประเด็นสำคัญอย่าแก้ไขปัญหาใดแบบด้านเดียว

เพราะชีวิตเราต้องการน้ำด้วยอย่าเอาความสยองขวัญจากน้ำท่วมไม่กี่เดือนมาแก้ภาพรวมทั้งประเทศไม่ได้  ที่สำคัญคือดูสองอย่าง ไม่มีใครพูดน้ำแล้ง มุ่งไปเรื่องน้ำท่วมอย่างเดียว ต้องดูทั้งหมดว่าไม่ให้แล้งอย่างไรไม่ให้ท่วมอย่างไรต้องบูรณาการกันก่อนถ้าอยากแก้ไข อัญเชิญแนวทางพระเจ้าอยู่หัวมาก่อน  วันนี้หน้าจอทีวีก็พูดกันเต็มได้ยินจนชินหู ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ แต่ป่าถูกทำลายทุกวัน จะหยุดยั้งอย่างไรไม่มีการพูดถึง เอาพื้นที่ต้นน้ำให้อยู่ก่อน ถ้าป่าไม้สมบูรณ์เก็บได้น้ำ 20-25 เปอร์เซ็นต์ พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งทำแก้มลิง

“จริงๆต้องทำฟลัดเวย์อย่างเร่งด่วน แต่ขณะนี้ประกาศตูมใครท่วมบ้างไม่ท่วม เหลือมากรุงเทพฯเท่าไหร่ ซึ่งต้องเหลือมาบ้าง แต่คลองในกทม.เป็นอย่างไรมีอะไรเต็มไปหมดทำความสะอาดหรือยัง กรุงเทพฯเป็นทางตรงที่สุดลงทะเล ทั้งนี้การขุดลอกคูคลอง ความจริงไม่จำเป็นต้องใช้งบจำนวนมากและไม่ต้องขยายคลอง ใช้คูคลองที่มีอยู่เดิมและเสริมคันคลองให้สูงขึ้นเพื่อบีบน้ำให้ลงทะเลเร็วๆ และกรุงเทพต้องให้ท่วมบ้าง กรุงเทพปีนี้ น้ำอาจจะท่วมบ้างไม่หนักหนา ปัญหาจัดการสำคัญคือต้องทำให้เร็วติดสินใจก่อนเวลาคือสิ่งแก้ปัญหาได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด" เลขามูลนิธิชัยพัฒนา กล่าว


ด้านนายอาจอง ชุมสาย ณ  อยุธยา ผู้คิดค้นฐานจอดยานอวกาศองการนาซ่ากล่าวในหัวข้อ"บทเรียนและอนาคตการสู้ภัยน้ำท่วมขอมชุมชน" ว่า

 ปีนี้น่าห่วงว่าจะเกิดแผ่นดินไหวที่อินเดีย มาชนประเทศพม่า และสะท้อนมาถึงประเทศไทยทางเหนือและตะวันตก เช่นจังหวัดกาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต ระนอง สุราษฎร์ธานี ต้องระวังให้มาก โดยให้ย้อนหลังไปดูสถิติการเกิดแผ่นดินไหวตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.  55 เกิดรอบประเทศไทยตลอด ซึ่งแนวโน้มสูงในปีนี้เปลือกโลกจะเกิดชนกันมากขึ้นจนเกิดมีคลื่นยักษ์สึนามิสูง 10 เมตร โจมตีเข้าที่จ.สงขลา และอ่าวไทย กระทบมาถึงกรุงเทพฯด้วยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร  ตนฝากไว้ด้วยเพื่อจะได้เตรียมใจกันไว้


นายอาจอง กล่าวว่า  หากมาดูประเทศไทยถ้าพอน้ำทะเลขึ้น  7 เมตรเพราะกรุงเทพฯอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล จะไม่มีกรุงเทพฯแล้ว

นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา  นครปฐม ลพบุรี นครนายกจมหายไปหมด น้ำทะเลท่วมหมดภาคกลางภายในเวลาประมาณ 20 ปี ทางรอดคือต้องสร้างเขื่อนกั้นอ่าวไทยไม่ให้น้ำทะเลเข้ามาท่วมภาคกลาง เราไม่มีทางเลือกแล้ว ขณะนี้เราเสียแผ่นดินเขตบางขุนเทียนไป 1 กิโลเมตร อยากจะฝากไว้ว่าอยู่กับน้ำ รักน้ำ อย่าไปต่อสู้กับน้ำ เราต้องมีที่ให้น้ำไปและปล่อยน้ำให้ผ่านไป มนุษย์ต้องลดการใช้พลังงานทุกด้านอยู่ในโลกนี้อย่างมีความสุข

ด้านนายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา คณะกรรมการ กยน.กล่าวว่า ในวันที่ 24 ก.พ.นี้
 
น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี จะนำแผนรับมืออุทกภัยน้ำปี 55 ทูลเกล้าถวายรายงานต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากพระองค์ท่านทรงเป็นห่วงประชาชนที่ประสบกับอุทกภัยเมื่อปี 54 อย่างมาก ทาง กยน.จึงจะนำแผนขึ้นถวายรายงานความก้าวหน้าเพื่อให้พระองค์ท่านทรงคลายความกังวล หากพระองค์ท่านยังทรงมีความห่วงใยในจุดไหนจะเร่งนำมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ทันต่อการรับมืออุทกภัยในปี 55.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์