เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ชมรมนักข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางไปสำรวจพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมย่านถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ในช่วงกลางดึกวันที่ 3 ม.ค. พบว่าถูกน้ำท่วมตลอดทั้งสายระดับความสูงของน้ำประมาณ 50 ซ.ม. โดยยังมีรถยกสูงวิ่งผ่านไปมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อาคารร้านค้าต่าง ๆ บางส่วนยังเปิดประตู และมีการจัดคนเฝ้ารอดูสถานการณ์ระดับน้ำอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่ยังเดินลุยน้ำเข้าออกในชุมชนต่าง ๆ เพื่อออกไปซื้อหาอาหารมารับประทานเช่นกันอย่างต่อเนื่อง แต่การเข้าออกเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากระดับน้ำในของแต่ละชุมชนสูงกว่า 1 เมตร
ในขณะที่ถนนซอยในชุมชนต่าง ๆ ระหว่างถนนพัฒนาการคูขวางกับถนนศรีปราชญ์ และถนนศรีธรรมโศกระดับน้ำสูงโดยเฉลี่ยกว่า 1.20 เมตร
พบกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 4 เกือบ 50 นายใช้รถ จีเอ็มซี.ขับตระเวนออกช่วยเหลือขนย้ายข้าวของประชาชนผู้ประสบภัย ในขณะที่ทีมเรือกู้ภัยนครของครอบครัวข่าว 3 ได้นำเรือกู้ภัยของครอบครัวข่าว 3 เข้าไปช่วยเหลือรับส่งประชาชนที่เข้า-ออกไปในชุมชน โดยมีนายธงชัย ทองมี อดีตประธานชุมชนราชนิคม นำเรือสปีดโบทและเจ็ตสกีมาสมทบช่วยในการช่วยรับส่งประชาชนที่ต้องการเข้าออกในชุมชนด้วย
นางรำพึง มูสิการักษ์ กล่าวว่า ขอบคุณที่ผู้สื่อข่าวมาเยี่ยมเยียน เพราะตั้งแต่โดนน้ำท่วมมา 2 วันไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลืออะไรเลย
แม้แต่ถุงยังชีพก็ไม่เห็นนำมาแจกช่วยเหลือผู้ประสบภัยแม้แต่น้อย ไม่เคยมีใครเข้ามาสอบถามความเป็นอยู่ของชาวบ้านเลย อย่างไรก็ตามครอบครัวของตนจัดได้เตรียมข้าวสาร และอาหารไว้ล่วงหน้าแล้ว คงจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ 4 คนพ่อแม่ลูกอย่างน้อย 3 วัน หากน้ำยังไม่แห้งก็ไม่มีปัญหาเพราะนายวงศ์ สามีได้ต่อแพแบบง่าย ๆ ขึ้นใช้สำหรับพายออกไปซื้ออาหารจากนอกชุมชนได้ไม่ยากนัก สำหรับน้ำท่วมครั้งนี้จะผิดกับครั้งก่อน ๆ คือน้ำมาเร็วมากและมาตอนกลางคืน
ทั้งนี้ บริเวณสามแยกเพนียด –สามแยกประตูขาว ซึ่งเป็นย่านธุรกิจมีสถานประกอบการใหญ่ ๆ ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวหมายแห่ง
เช่น ธนาคาร ศูนย์รวมจำหน่ายอะไหล่รถยนต์และรถยนต์ยี่ห้อดัง และห้างไอทีพลาซ่า ศูนย์รวมสินค้าไอทีที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช ต่างนำกระสอบทรายวางแนวป้องกันน้ำอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดนครศรธรรมราชนบร้อยล้านบาท.