วันนี้ ( 26 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์มรสุมที่พัดถล่มอย่างหนักในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยของจังหวัดนครศรีธรรมราช
ตั้งแต่ อ.ขนอม อ.สิชล อ.ท่าศาลา อ.เมือง อ.ปากพนัง เรื่อยไปจนถึง อ.หัวไทร เขตรอยต่อกับ อ.ระโนด จ.สงขลา โดยตั้งแต่ช่วงเช้าคลื่นลมได้เพิ่มกำลังขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจุดที่ได้รับผลกระทบสูงสุดในขณะนี้ คือ บ้านแหลม หมู่ 2 และหมู่ 3 ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง ยังคงมีคลื่นลมถาโถมเข้าซัดหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง น้ำทะเลหนุนสูงเข้าท่วมหมู่บ้านซ้ำ
ในหมู่บ้าชาวประมงแหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง ตั้งแต่ช่วงเช้ายังเต็มไปด้วยความโกลาหล
ชาวบ้านในหมู่บ้านได้ช่วยกันลงแขกแรงงานเข้ารื้อบ้านสมาชิกของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในจุดเสี่ยงกว่า 20 ครัวเรือน ได้ตัดสินใจรื้อบ้านหนีภัย โดยมีนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ส่งกำลังพลของเจ้าหน้าที่ อส. และกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 4 เข้าให้การช่วยเหลือ โดยนายพิชัย บุณยเกียรติ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ได้อนุญาตให้ชาวบ้านสร้างที่พักชั่วคราวริมถนนในหมู่บ้าน มี น.ส.นริศา อดิเทพวรพันธ์ ส.ส. จ.นครศรีธรรมราช คอยอำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิด
ขณะที่นายพิชัย เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ถนนเลียบชายทะเลปากพนัง-หัวไทร ช่วงระหว่าง ต.ท่าพญา ต.ขนาบนาค อ.ปากพนัง-ต.หน้าสตน อ.หัวไทร
ซึ่งมีคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำกัดเซาะอย่างรุนแรง จนกำแพงแนวคอนกรีตกันคลื่นพังเสียหายเป็นช่วง ๆ ส่วนสถานการณ์ทางด้านกองเรือประมงในจังหวัดนครศรีธรรมราช ในปากน้ำปลายจุดตั้งแต่ปากอ่าวขนอม อ.ขนอม ปากอ่าวสิชล อ.สิชล ปากอ่าวปากพูน อ.เมือง ปากอ่าวปากพนัง ไปจนถึง อ.หัวไทร เรือประมงทุกขนาดได้ทยอยเข้าจอดเทียบท่าจนหมด ในขณะที่เรือประมงพื้นบ้านขนาดเล็ก ชาวประมงได้ลากเรือขึ้นมาไว้บนหาดทรายห่างจากแนวของซัดของคลื่น
ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผวจ. พร้อม นางปรียา ศรีวัฒนตระกูล นายกเหล่ากาชาด และนายอนันต์ ไชยศักดิ์
นายอำเภอทับสะแก ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากคลื่นลมทะเลที่ซัดชายฝั่งตลอดแนวบริเวณท่าเทียบเรือประมงโครงการพัฒนาประมงทะเลชายฝั่งพื้นบ้าน ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก โดยก่อนหน้านั้นคลื่นซึ่งมีความสูง 3-4 เมตร ได้ซัดฝั่งจนชายหาดและบ้านเรือนเสียหาย ซึ่งก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ทาง อบต.ห้วยยาง ได้นำกระสอบทราย จำนวน 1,000 ลูกมาทำแนวกันคลื่นซัดชายหาดแล้ว แต่เนื่องจากคลื่นลมปีนี้มีกำลังแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้แนวกระสอบทรายไม่สามารถต้านแรงคลื่นได้ ส่งผลให้น้ำทะเลเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนของชาวประมง
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้สรุปความเสียหายจากวาตภัยคลื่นซัดชายฝั่งในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ตั้งแต่วันที่ 24-26 ธ.ค.54 ส่งผลกระทบต่อ 6 อำเภอ คือ อ.หัวหิน อ.สามร้อยยอด อ.กุยบุรี อ.ทับสะแก อ.เมืองฯ และ อ.บางสะพานน้อย ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ประมาณ 565 ครอบครัว และจากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าวพบว่าในวันนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว.