ที่ ศปภ. กระทรวงพลังงาน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.และโฆษก ศปภ. กล่าวว่า
ตามที่ได้มีการสำรวจรถยนต์ที่จมน้ำอยู่บริเวณลานจอดรถชั้นล่างของท่าอากาศยานดอนเมืองซึ่งมีอยู่จำนวน 166 คัน ซึ่งได้ประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของรถมาตรวจสอบและลงทะเบียนนั้น ขณะนี้มีเจ้าของรถได้เข้ามาดำเนินการแล้วรวม 99 คัน เป็นยี่ห้อโตโยต้ามากที่สุด 44 คัน
โดยรถแต่ละคันจะได้รับการล้างทำความสะอาด และตรวจสอบความเสียหายต่างๆจากช่างของบริษัทรถยนต์ยี่ห้อต่างๆที่มาประจำอยู่ รวมทั้งการประเมินความเสียหายจากตัวแทนวินาศภัย และเจ้าหน้าที่ ศปภ.ซึ่งหารือร่วมกันกับเจ้าของรถในเรื่องการซ่อมแซมและจัดหาอู่ซ่อมรถในราคาที่เป็นธรรมด้วย
สำหรับการเยียวยาและให้ความช่วยเหลือกับเจ้าของรถทั้ง 166 คันนั้น
เมื่อเจ้าของรถได้เดินทางมาตรวจสอบรถครบทั้งหมดแล้ว จะสรุปเสนอ ผอ.ศปภ.เพื่อแจ้งนายกรัฐมนตรีให้ทราบถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น และพิจารณาให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป โดยรถยนต์ทั้ง 166 คันดังกล่าวนั้นถูกน้ำท่วมมิดถึงหลังคา ทั้งนี้ยังเหลือรถที่ยังรอเจ้าของมาดำเนินการตรวจสอบอยู่อีก 67 คัน
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินคดีกับ พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า
ตามที่กทม.ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ที่ สน.คันนายาว และต่อมาได้ส่งเรื่องให้ สภ.คูคตนั้น ล่าสุดได้รับแจ้งจาก พ.ต.อ.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผกก.สภ.คูคต ว่าจำเป็นจะต้องพิจารณาให้รอบคอบเกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุว่า อยู่ในเขตอำนาจการสอบสวนของท้องที่ใด ซึ่งขณะนี้จากการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่ชัดเจน กำลังประสานหารือกับอำเภอลำลูกกาเพื่อให้เกิดความชัดเจนและถูกต้อง
หากพบว่าเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวหรือไม่สามารถชี้ชัดได้ ทางสน.คันนายาวจะเป็นท้องที่รับผิดชอบสอบสวนก็สามารถดำเนินการได้ โดยตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งในกรณีนี้ได้มีการกล่าวหาว่า พ.ต.ต.เสงี่ยมกระทำผิดฐานร่วมกันบุกรุกและกระทำการฝ่าฝืนคำสั่งผู้อำนวยการ กทม.