วันที่ 2 ธ.ค. 2554 ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) กระทรวงพลังงาน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม และผอ.ศปภ.
กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองที่คำสั่งให้ศปภ.กับกทม.ดูแลรับผิดชอบประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน ว่าการช่วยเหลือหลักน่าจะเป็นบทบาทของกทม.เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่มีสิทธิที่จะดำเนินการอยู่แล้ว ทั้งนี้ ศปภ.พูดคุยกับกทม.แล้วซึ่งได้ข้อยุติทั้งหมด และขณะนี้พื้นที่อื่นๆก็ไม่มีปัญหาอะไรไม่ว่าจะเป็นประตูระบายน้ำคลองหม้อแตกหรือประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ ก็จบหมดแล้ว ประมาณ 2 – 3 วัน สถานการณ์น้ำน่าจะดีขึ้นไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้ว เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่น้ำก็แห้งแล้ว
ในวันพรุ่งนี้ ตนจะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัด 6 – 7 จังหวัด ที่น้ำท่วม รวมทั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนในประเด็นเฉพาะหน้าสำหรับพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังมาก ซึ่งจะต้องมีแผนว่าจะทำสิ่งใดก่อนหลังในการช่วยเหลือประชาชน เพราะจังหวัดต่างๆมีพื้นที่ที่ไม่เหมือนกัน
ส่วนการรื้อแนวคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็กนั้น ตนได้อนุญาตให้รื้อได้แล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ ตั้งแต่หลักหกไปจนถึงถนนวิภาวดีรังสิต
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอเครื่องมือหนักมาช่วยในการเคลื่อนย้ายออก โดยอนุญาตให้รื้อแนวเดียวก่อน ส่วนแนวบิ๊กแบ็กบริเวณสายไหมและตอนบนของหลักหก จะยังคงไว้อีก 1 – 2 วัน ขณะที่ทรายที่นำมาใช้ในการสร้างคันกั้นน้ำจากน้ำท่วมในคราวนี้จะถูกนำไปจัดเก็บไว้ตามหน่วยงานต่างๆ
ส่วนจะมีการยุบศปภ.หรือไม่ ในสัปดาห์หน้าจะมีการประเมินอีกครั้ง เนื่องจากศปภ.มีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และเมื่อเข้าสู่การฟื้นฟูจะมีคณะกรรมการฟื้นฟูและเยียวยาทำหน้าที่ต่อ ซึ่งศปภ.ต้องค่อยๆถอยออกมา
นอกจากนี้ ตนขอฝากถึงประชาชนในพื้นที่กทม.ชั้นในให้นำกระสอบทรายที่กั้นอยู่ตามบ้านเรือนออกได้แล้ว เพราะจะไม่มีน้ำเข้ามาท่วมขังอีกแล้วปีหน้าค่อยว่ากันใหม่