สภาพปทุมธานีหลังน้ำค่อยๆลด ถนนพัง รถติดหนึบ3 สายหลักเข้าออก กทม.

สภาพปทุมธานีหลังน้ำค่อยๆลด ถนนพัง รถติดหนึบ3 สายหลักเข้าออก กทม.

      ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปทุมธานี  เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน  ว่า หลังจากเหตุอุทกภัยน้ำท่วมมาเป็นเวลากว่า 1 เดือน ระดับน้ำในแม่น้ำจ้าพรพะยา มวลน้ำจากทุ่งตอนเหนือ , วังน้อย , บางปะอินทร์ , และพระนครศรีอยุธยา ที่เอ่อล้นบ่าไหลลงสู่ทะเล ได้ผ่าน ปทุมธานี , นนทบุรี , กรุงเทพมหานคร , ลงสู่ปากอ่าวทะเล สมุทรปราการ , หลายหน่วยงานภาครัฐ ทั้ง ศปภ. กทม. กรมชลประทาน ฝ่ายปกครองจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างระดมเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ และเยียวยาพี่น้องประชาชนให้กลับคืนสู่ชีวิตปกติ ท่ามกลางปัญหาที่ตามมามากมาย ทั้ง แรงกดดันจากประชาชน ที่ทนทุกข์ทรมาน อยู่กับสภาพน้ำที่ท่วมขัง 0.5 – 3 , 4  เมตร มาเป็นแรมเดือน บางพื้นที่สภาพน้ำเริ่มดำ และส่งกลิ่นเน่าเหม็น จึงมักมีประชาชนออกมาประท้วง พังถุงทรายยักษ์ (บิ๊กแบ๊ก) และแนวคันกระสอบทราย ถนนหลายสาย ชุมชนเมืองต่างๆ ที่เงียบเหงาเสมือนเมืองร้าง การสัญจร ที่ต้องใช้เรือ และรถยนต์ทหารเท่านั้น เริ่มกลับคืนสู่ความคึกคัก มีรถยนต์เล็ก วินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง แท็กซี่มิเตอร์ วิ่งประปราย บนถนนหลายสาย

 ขณะเดียวกันกรมชลประทานได้เร่งซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำอีก 2 ตัวที่ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้ จะทำให้เครื่องสูบน้ำทั้ง 26 ตัว สามารถเดินเครื่องได้พร้อมกัน ลงสู่คลองรังสิต ประยูรศักดิ์ ที่ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และระบายออกไปตามลำคลอง ตั้งแต่คลองหนึ่ง ถึงคลองสาม เขต อ.ลำลูกกา ออกทางประตูระบายน้ำคลองสอง คลองหกวา และคลองพระยาสุเรนทร์ คลองหม้อแตก เขต กทม.ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำที่ชุมชนตลาดรังสิต ทั้ง 3 ตลาดลดลง คลี่คลายสูงปกติเร็วกว่ากำหนด รวมทั้งเทศบาลเมืองปทุมธานี ก็มีการกั้นเร่งกู้พื้นที่เศรษฐกิจ ตั้งแต่ ถ.พัฒนสัมพันธ์ ตรงข้าม ศาลาการจังหวัดปทุมธานี ผ่านหน้าจวนผู้ว่า ผ่านแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำตลาดสดเทศบาล วนผ่าน ถ.ปทุมสัมพันธ์ ที่มีธนาคาร หลายแห่ง  ไปบรรจบที่ สี่แยกปทุมวิไล  โดยได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาดท่อ 8 นิ้ว 450 ลูกบาศก์เมตรต่อวันจำนวน 30 เครื่อง ที่จะทำให้ตลาดเทศบาลเมืองปทุมธานี คลี่คลายกลับมาดำเนินธุรกิจได้ภายในไม่เกิน 10 วัน ตามที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลั่นวาจาไว้ว่า จะมาเยี่ยมเมืองปทุมธานี อีกครั้งโดยไม่ต้องลุยน้ำ


อย่างไรก็ตาม    หลังน้ำลดสภาพการจราจร ก็เริ่มเป็นปัญหา ติดขัดอย่างหนัก รถที่จะเดินทางออกต่างจังหวัด สู่ภาคเหนือ อีสาน หรือกลับสู่ กทม. ที่เส้นทางสายหลักบน ถ.พหลโยธิน วงแหวนตะวันอออก และวงแหวนตะวันตก ต่างตกอยู่ในสภาพชำรุด ถูกน้ำกัดเซาะ ประกอบกับขณะน้ำท่วมสูง มีเพียงรถบรรทุกขนาดใหญ่ใช้งาน จนเกิดมีหลุมบ่อขนาดใหญ่ ประชาชนต่างทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และการขนส่งเริ่มกลับมาใช้งานได้ หลังน้ำลด สภาพการจราจรจึงติดขัดทุกเส้นทางทั้งขาเข้า และขาออกถนน วงแหวนตะวันออก ช่วงก่อนด่านเก็บเงิน ธัญบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ ต่ำ ยังมีน้ำท่วมขังสูง 30-40 ซนติเมตร มีหลุมขนาดใหญ่ และหลุมขนมครก ตลอดทางยาว กว่า 500 เมตร รถยนต์บรรทุก 10 ล้อ และรถบรรทุกพ่วง เทลเลอร์ ยังต้องหลบเลี่ยงหลุมใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่พนักงานกรมทางหลวง นำถุงทรายมาเสริมปิดซ่อมหลุม อย่างทุลักทุเล และนำป้ายให้รถยนต์ขนากเล็กเลี่ยงช่องทางจราจรที่มีหลุมใหญ่ด้านหน้า ส่งผลให้การจราจรขาออก ติดขัดเป็นทางยาว กว่า 5 กิโลเมตรจากด่านธัญบุรี ไปจนสุดเขต อ.ลำลูกกา

  ส่วนถนนพหลโยธินตั้งแต่สะพานต่างระดับอนุสรณ์สถาน สนามกีฬาธูปเตยมี หน้าห้างเซียร์ รังสิต หน้าตลาดสี่มุมเมือง รังสิต ระดับน้ำสูง 0.5-1 เมตร มีเพียงรถยนต์ทหารสัญจรบริการับส่งประชาชนถึงหน้าห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และชุมชนตลาด รังสิต ซึ่งมีอยู่ 3 ตลาด ระดับน้ำท่วมสูง 1 เมตร ส่วนถนนพหลโยธิน จากหน้าห้าง ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ถึงหน้านิคม อุตสาหกรรม นวนคร ระยะทางยาว 9 กิโลเมตร มีพียงในช่องทางด่วน 4 เลน ทั้งขาเข้า และขาออก เป็นพื้นที่ แห้ง สลับน้ำท่วมขัง 20-30 เซนติเมตร จึงมีแต่รถยนต์ เข้ามาจอดหนีน้ำท่วมทำให้เสียพื้นที่ผิวจราจร ไป 2 ช่องจราจร ส่วนบริเวณเกาะกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่แบริเอร์สูง 180 เซนติเมตรกว้าง 4 เมตร ตลอดระยะทางยาว ตั้งแต่ใต้ทางด่วน ดอนเมืองโทลเวย์ ไปสุดทางลงหน้าโรงกษาปณ์ เขต อ.คลองหลวง ถูกแปลงสภาพ กลายเป็นศูนย์อพยพ ชั่วคราว ของผู้ประสบอุทกภัย ของย่านชุมชนขนาดใหญ่ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง กว่า 500 ครอบครัวเรือน ที่มาปลูกเพิงอาศัยอยู่เพราะเป็นห่วงทรัพย์สิน สามารถกลับไปดูทรัพย์สินใกล้บ้านได้

 ประกอบกับรถยนต์ ที่มีประชาชนมีความจำเป็นต้องเดินทางออกต่างจังหวัด และกลับเข้า กทม.ต้องประสบปัญหาถนนที่ถูกน้ำท่วมขังสูง 0.5-1 เมตร ในช่องทางคู่ขนาน ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำ และหลายแห่งในช่องทางด่วน ชำรุดเป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่ ประสบอุบัติเหตุตกหลุมไม่สามารถเดินทางต่อได้ ทำให้เสียพื้นที่ผิวจราจร และยังมีรถยนต์จอดหนีน้ำท่วม บนพื้นผิวการจราจร ที่ต้องเสียช่องจราจรไปมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้ง ทางด่วน ดอนเมืองโทลเวย์ ที่ยังมีรถยนต์จอดหนีน้ำ จอดระเกะระกะ และยังมีร้านค้า ที่หนีน้ำขึ้นมาเปิดเป็นร้านขายสินค้า บนช่องกลางผิวจราจรของสะพานยกระดับ ทั้งขาขึ้นและขาลง ฝั่งชุมชนตลาด รังสิต ที่สร้างปัญหาการจราจรให้ติดขัดอย่างหนัก รถยนต์ที่มาจากตามคลองต่างๆ บน ถ.รังสิต-นครนายก และรถยนต์ที่มาจากทางด่วนดอนเมือง โทลเวย์ ต้องใช้ความสามารถเป็นพิเศษในการขับขี่หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ ที่การจราจรไม่เป็นระเบียบวิ่งสวนเลนกัน  ส่วนทางด้าน ถ.วงแวนตะวันตก จาก ถ.พหลโยธินขาเข้า อ.บางปะอินทร์ จ.พระนครศรีอยุธยา มุ่งหน้า ปทุมธานี และ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก็ยังมีน้ำท่วมขัง 30-80 เซนติเมตร สลับพื้นที่แห้ง และมีหลุมบ่อทั้งขนาดเล็กถีงใหญ่ตลอดเส้นทาง


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์