กรมอุตุฯจับตาพายุลูกใหม่ “เนสาท” ทวีกำลังแรงขึ้น พร้อมเผยข้อควรระวัง
ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนกลางเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 21 - 22 ต.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลางตลอดช่วง โดยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร เว้นแต่ในช่วงวันที่ 17 - 18 ต.ค. 65 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง "เนสาท" บริเวณตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในวันที่ 16 ต.ค. 65 โดยคาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนผ่านตอนใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน และเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 19 - 20 ต.ค. 65 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับอย่างรวดเร็ว
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 16 - 20 ต.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง และประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วยตลอดช่วง
ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 17 - 18 ต.ค. 65 นี้ไว้ด้วย
สำหรับพยากรณ์อากาศระหว่างวันที่ 16-21 ตุลาคม 2565
ส่วนในช่วงวันที่ 21 - 22 ต.ค. 65 อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า ตลอดช่วง โดยมีฝนร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 16 - 20 ต.ค. 65 อุณหภูมิลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 21 - 22 ต.ค. 65 อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกบางในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 15-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-32 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง มีฝนร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 16 - 20 ต.ค. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 16 - 20 ต.ค. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง
ส่วนในช่วงวันที่ 21 - 22 ต.ค. 65 อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกบางในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 17 - 18 ต.ค. 65 ตั้งแต่ จ.กระบี่ ขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ตั้งแต่ จ.ตรัง ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 16 - 20 ต.ค. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 21 - 22 ต.ค. 65 อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกบางในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-33 องศาเซลเซียส