ปาบึกถล่ม!!ประกาศหยุดผลิตก๊าซ-น้ำมัน!ทร.จัดนาวาทัพเต็มอัตราศึก
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ภัยพิบัติ ปาบึกถล่ม!!ประกาศหยุดผลิตก๊าซ-น้ำมัน!ทร.จัดนาวาทัพเต็มอัตราศึก
แถลงการณ์กระทรวงพลังงานฉบับที่ 1/2562 สถานการณ์ พายุปาบึก ที่ส่งผลต่อการผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย จากเหตุการณ์พายุโซนร้อนปาบึก (PABUK) บริเวณอ่าวไทย เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2562 ซึ่งอาจส่ง ผลกระทบต่อกิจกรรมการผลิตปิโตรเลียมในทะเลอ่าวไทย กระทรวงพลังงานได้ประสานข้อมูล สั่งการและติดตามร่วมกับบริษัทผู้ประกอบกิจการปิโตรเลียมในทะเลอ่าวไทยทั้ง 8 กลุ่มบริษัทอย่างใกล้ชิด
ขณะนี้ได้ มีการถอนตัวเจ้าหน้าที่ที่ไม่จำเป็นในการผลิตกลับขึ้นฝั่ง ณ จังหวัดสงขลาและจังหวัดชลบุรีโดยเรือและเฮลิคอปเตอร์ เรียบร้อยแล้วอย่างปลอดภัย
ผลจากพายุโซนร้อนครั้งนี้ บริษัทผู้ประกอบการจำเป็นต้องหยุดผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบบางส่วนเพื่อความปลอดภัย ทำให้ปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยลดลงจากการที่แหล่งบงกชเหนือหยุดการผลิตประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันจากปริมาณการผลิตทั้งหมดในอ่าวไทยจำนวน 2,400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
สำหรับน้ำมันดิบหยุดการผลิตประมาณ 27,000 บาร์เรลต่อวันจากปริมาณการผลิตปัจจุบัน 100,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งในส่วนการผลิตน้ำมันดิบที่ลดลงนั้นยังไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ในประเทศ
กระทรวงพลังงานได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยในการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาตินั้น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) จะส่งก๊าซธรรมชาติที่ถูกทำให้เหลว (LNG) เข้าระบบเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติที่ลดลง
ขณะนี้ได้ มีการถอนตัวเจ้าหน้าที่ที่ไม่จำเป็นในการผลิตกลับขึ้นฝั่ง ณ จังหวัดสงขลาและจังหวัดชลบุรีโดยเรือและเฮลิคอปเตอร์ เรียบร้อยแล้วอย่างปลอดภัย
ผลจากพายุโซนร้อนครั้งนี้ บริษัทผู้ประกอบการจำเป็นต้องหยุดผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบบางส่วนเพื่อความปลอดภัย ทำให้ปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยลดลงจากการที่แหล่งบงกชเหนือหยุดการผลิตประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันจากปริมาณการผลิตทั้งหมดในอ่าวไทยจำนวน 2,400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
สำหรับน้ำมันดิบหยุดการผลิตประมาณ 27,000 บาร์เรลต่อวันจากปริมาณการผลิตปัจจุบัน 100,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งในส่วนการผลิตน้ำมันดิบที่ลดลงนั้นยังไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ในประเทศ
กระทรวงพลังงานได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยในการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาตินั้น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) จะส่งก๊าซธรรมชาติที่ถูกทำให้เหลว (LNG) เข้าระบบเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติที่ลดลง
ในส่วนการผลิตไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้สำรองจากเชื้อเพลิงอื่นมากขึ้น โดยได้สำรองน้ำมันดีเซล และน้ำมันเตาทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าอย่างเพียงพอหากจำเป็น รวมถึงการนำเข้าไฟฟ้าพลังน้ำจากต่างประเทศ
สำหรับก๊าซหุงต้ม หรือ LPG ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ส่งเข้าโรงแยกก๊าซลดลง กรมธุรกิจพลังงานและบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) จะบริหารจัดการให้มีปริมาณ LPG เพียงพอต่อการใช้ของประชาชน
ในภาพรวมกระทรวงพลังงานสามารถบริหารจัดการโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและจะแจ้งให้ทราบอย่างต่อเนื่องต่อไป
สำหรับก๊าซหุงต้ม หรือ LPG ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ส่งเข้าโรงแยกก๊าซลดลง กรมธุรกิจพลังงานและบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) จะบริหารจัดการให้มีปริมาณ LPG เพียงพอต่อการใช้ของประชาชน
ในภาพรวมกระทรวงพลังงานสามารถบริหารจัดการโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและจะแจ้งให้ทราบอย่างต่อเนื่องต่อไป
ด้าน .พล.ร.ท.เดชดล ภู่สาระ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า
พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้สั่ง เตรียมพร้อมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจาก พายุปาบึก (PABUK) โดยให้ เรือหลวงอ่างทอง ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ เตรียมนำกำลังพล และเครื่องมือเพื่อเข้าปฏิบัติการช่วยเหลือ ด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ" (Humanitarian Assistance and Disaster Relief : HADR)
โดยมีทีมแพทย์ และกำลังพล รวมทั้งอากาศยาน ที่พร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งนี้หากเกิดเหตุ ทางกองทัพเรือจะได้รวบรวมข้อมูลข่าวสาร เพื่อประมวลเหตุการณ์ เพื่อจะได้เข้าให้การช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเรือหลวงอ่างทอง เตรียมความพร้อม 3 ม.ค. ที่ท่าเรือแหลมเทียน สัตหีบ ชลบุรี
สำหรับเรือหลวงอ่างทอง สังกัด กองเรือยกพลขึ้นบกและ ยุทธบริการ กองเรือยุทธการ แบบ Landing Platform Dock (LPD) ที่สามารถปฏิบัติการในทะเลต่อเนื่องได้ไม่น้อยกว่า 45 วัน ปฏิบัติการในทะเลได้ถึง Sea State 6 และรองรับกำลังพล 360 นาย
เรือหลวงอ่างทอง เป็นเรือที่ใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างดียิ่ง ครอบคลุมในทุกระดับในการปฏิบัติการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าปฏิบัติการในพื้นที่ สนามบินไม่สามารถ ใช้การได้ เสันทางต่าง ๆ
สามารถจัดตั้งโรงพยาบาลบนเรือ สามารถนำยานพาหนะ เครื่องจักรกลที่ใช้ในการช่วย เหลือออกจากเรือหลวงอ่างทองด้วยเรือระบายพลขนาดกลางและขนาดเล็กของเรือ รวมทั้งใช้เฮลิคอปเตอร์ ที่มากับเรือในการนำผู้ป่วยกลับมารักษาที่เรือได้อีกด้วย
พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้สั่ง เตรียมพร้อมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจาก พายุปาบึก (PABUK) โดยให้ เรือหลวงอ่างทอง ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ เตรียมนำกำลังพล และเครื่องมือเพื่อเข้าปฏิบัติการช่วยเหลือ ด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ" (Humanitarian Assistance and Disaster Relief : HADR)
โดยมีทีมแพทย์ และกำลังพล รวมทั้งอากาศยาน ที่พร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งนี้หากเกิดเหตุ ทางกองทัพเรือจะได้รวบรวมข้อมูลข่าวสาร เพื่อประมวลเหตุการณ์ เพื่อจะได้เข้าให้การช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเรือหลวงอ่างทอง เตรียมความพร้อม 3 ม.ค. ที่ท่าเรือแหลมเทียน สัตหีบ ชลบุรี
สำหรับเรือหลวงอ่างทอง สังกัด กองเรือยกพลขึ้นบกและ ยุทธบริการ กองเรือยุทธการ แบบ Landing Platform Dock (LPD) ที่สามารถปฏิบัติการในทะเลต่อเนื่องได้ไม่น้อยกว่า 45 วัน ปฏิบัติการในทะเลได้ถึง Sea State 6 และรองรับกำลังพล 360 นาย
เรือหลวงอ่างทอง เป็นเรือที่ใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างดียิ่ง ครอบคลุมในทุกระดับในการปฏิบัติการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าปฏิบัติการในพื้นที่ สนามบินไม่สามารถ ใช้การได้ เสันทางต่าง ๆ
สามารถจัดตั้งโรงพยาบาลบนเรือ สามารถนำยานพาหนะ เครื่องจักรกลที่ใช้ในการช่วย เหลือออกจากเรือหลวงอ่างทองด้วยเรือระบายพลขนาดกลางและขนาดเล็กของเรือ รวมทั้งใช้เฮลิคอปเตอร์ ที่มากับเรือในการนำผู้ป่วยกลับมารักษาที่เรือได้อีกด้วย
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น