บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และอุณหภูมิจะลดลง ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีอากาศหนาวเย็น สำหรับภาคใต้ มีลมตะวันออกที่พัดปกคลุมจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและคลื่นลมมีกำลังแรงขึ้น
ภาคเหนือ
ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส
ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 1-10 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 23-30 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี
โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีเมฆบางส่วน กับมีฝนเล็กน้อย
โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังคงมีสภาพอากาศแปรปรวนแต่ฝนฟ้าคะนองลดลง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปเนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ และกระแสลมตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 2-6 กุมภาพันธ์ 2561 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลงได้อีก 3-5 องศาเซลเซียส ทำให้บริเวณดังกล่าว
มีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 2-6 กุมภาพันธ์ 2561 โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรระวังความเสียหาย ต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย และประชาชนบริเวณภาคใต้ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่เพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และติดตามข้อมูลจากเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 05.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 11.00 น.