นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า เขื่อนลำปาวได้ขอมติที่ประชุมขอระบายน้ำออกจากเขื่อนเพิ่มจาก 25 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน เป็นวันละ 35 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน แต่คณะกรมการจังหวัดและคณะทำงานวิเคราะห์สถานการณ์อุทกภัยฯ พิจารณาแล้วมีความเห็นร่วมกันว่าควรระบายน้ำเพิ่มขึ้นเพียง 30ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน โดยให้เริ่มค่อยๆระบายน้ำ จนถึงระดับ30 ล้านลูกบาศก์เมตร ในเวลา18.00 น.วันนี้ และปล่อยน้ำในระดับ30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันไปเป็นเวลา 2 วัน ถึงวันที่ 11สิงหาคม แล้วจะมาประเมินสถานการณ์กันใหม่
เขื่อนลำปาวปล่อยน้ำเพิ่มเตือนหลายพื้นที่เฝ้าระวัง!!
ทั้งนี้ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวมีความจำเป็นที่เขื่อนต้องพร่องน้ำเพื่อเป็นการรองรับน้ำที่เข้ามาในหน้าฝนนี้ และการระบายน้ำในปริมาณเท่านี้ จะไม่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเพิ่มขึ้นจากที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ล่าสุดเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 1,742 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 88 ของความจุอ่าง
ส่วนการจัดจราจรน้ำในลำน้ำชี โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีกลาง กรมชลประทาน ได้ลดประตูเขื่อนกั้นลำน้ำชี ที่ฝายคุยเชือก อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ลงอีกจาก 1.50 เมตร เป็น 1.80 เมตร เพื่อชะลอน้ำชีไม่ให้ไหลเร็ว เข้าเขตพื้นที่กาฬสินธุ์ได้วันละ 5.5 ล้านลูกบาศก์เมตร และจะทำให้น้ำปาวไหลลงลำชีได้เร็วขึ้น ได้ทำการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำที่ฝายร้อยเอ็ด จาก 8 เครื่อง เพิ่มอีก 4 เครื่อง รวมเป็น 12 เครื่องภายในนี้ ซึ่งจะทำให้สามารถเพิ่มการระบายน้ำชีได้เร็วขึ้นได้วันละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ส่วนพนังกั้นน้ำลำน้ำชีในเขตอำเภอฆ้องชัยและพนังน้ำพาน ในเขตอำเภอเมือง ที่เป็นจุดเสี่ยงได้มีการเสริมให้หนาขึ้นและสูงขึ้นและให้จัดเวรยามเฝ้าระวังตลอดเวลา นอกจากนี้ยังขอให้ทางอำเภอที่ประสบน้ำท่วม อพยพประชาชนที่อาศัยบนถนน บนพนัง ให้ไปอยู่ในที่ที่ทางราชการจัดไว้ให้เพื่อความสะดวกในการดูแล
สำหรับภาพรวมผลกระทบทั้ง 5 อำเภอ คืออำเภอเมือง, อำเภอยางตลาด, อำเภอกมลาไสย, อำเภอฆ้องชัย และอำเภอร่องคำ สถานการณ์น้ำยังทรงตัว แต่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอีกรอบเนื่องจากเขื่อนได้เพิ่มการระบายน้ำกลับมาเป็น 30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้ประชาชนยังต้องฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา
Cr: Posttoday