วันที่ 4 ส.ค. ที่ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช มีพิธีพราหมณ์บวงสรวงศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช โดยนายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธาน มี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช และประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมพิธี โดยพิธีพราหมณ์บวงสรวงศาลหลักเมืองนั้น เป็นหนึ่งในพิธีเสริมความเจริญรุ่งเรืองของเมือง การทำบุญเมืองนคร การขอพรองค์พ่อจตุคาม-รามเทพ ขอพรศาลหลักเมือง และมีพิธีแก้บนของชาวบ้านที่ได้มาบนบานศาลกล่าวเอาไว้ ตามความเชื่อที่ยึดถือกันมา และที่สำคัญได้มีการจัดงานสมโภชศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นในตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา และงานจะสิ้นสุดในวันที่ 5 ส.ค.นี้
แต่ปรากฏว่าในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ได้เกิดพายุลมกรรโชกอย่างรุนแรง ทำเอาเต็นท์นับ 10 หลังที่ทำพิธีปลิวกระจัดกระจาย แต่ขณะลมพายุพัดกระหน่ำนั้นมีคนอยู่ในบริเวณดังกล่าวไม่มาก ทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดพายุลมกรรโชกแรงในครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านที่มาร่วมพิธีเกิดการวิพากษ์วิจารณ์และไม่เห็นด้วยกับการบูรณะศาลหลักเมืองจนผิดรูปแบบเดิม เชื่อว่าการบูรณะครั้งนี้ผิดรูปแบบโบราณจนทำให้เกิดอาเพศ หรือลางไม่ดีต่อบ้านเมือง ซึ่งพิธีการบวงสรวงเป็นข้อตกลงหลังจากมีผู้ร้องคัดค้านการบูรณะดังกล่าว เพราะเชื่อว่ากระทำผิดหลักจารีตจึงได้มีการบวงสรวงครั้งใหญ่เกิดขึ้น ขณะที่การสมโภชศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชยังคงดำเนินต่อไป ส่วนเต็นท์จำนวนนับ 10 หลังที่พังลงมา จะมีเจ้าหน้าที่เข้าเก็บกวาดในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม นายสายัณห์ ยุติธรรม อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราช ขอให้ศาลสั่งระงับการบูรณะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช เนื่องจากการบูรณะนั้นได้กระทำการผิดไปจากรูปแบบโบราณ ซึ่งศาลได้รับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณาตั้งแต่กลางเดือนก.ค. ที่ผ่านมาอีกทั้ง เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ศาลได้ทำหนังสือส่งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายกเทศมนตรีนครศรีธรรมราช ให้ส่งเอกสารชี้แจงโครงการบูรณะศาลหลักเมืองภายใน 15 วัน