ผู้ว่าฯร้อยเอ็ด วอนชาวบ้าน ต.วังหลวง-นาแซง ที่เหลืออีกพันกว่าคน ยังห่วงทรัพย์สิน อพยพออกจากพื้นที่ ไปศูนย์พักพิง หลังออกประกาศ หวั่นน้ำชีไหลมาสมทบเพิ่ม อีกทั้งน้ำท่วมขยายวงกว้าง เกรงการช่วยเหลือจะไม่ทัน...
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. จากสถานการณ์น้ำจากลำน้ำชีและลำน้ำยังมีระดับสูงขึ้น ไหลเข้าท่วมพื้นที่ ต.วังหลวง และ ต.นาแซง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา และยังทำให้พนังกั้นน้ำลำน้ำชีขาด ล่าสุด นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงนายสุรพร หมายเจริญ นายอำเภอเสลภูมิ ให้ประกาศอพยพประชาชนในพื้นที่ ต.วังหลวง และต.นาแซง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอันดับแรก ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เนื่องจากมีฝนตกหนักถึงมากในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด มาตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. เป็นต้นมา ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง และน้ำไหลหลากบริเวณพื้นที่ อ.เสลภูมิ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำยัง ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ต.วังหลวง และต.นาแซง
ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผย ไทยรัฐออนไลน์ ว่า ภายหลังออกหนังสือด่วนดังกล่าว พบว่าชาวบ้านจำนวนครึ่งหนึ่งในพื้นที่ประมาณ 1 พันกว่าราย ยังไม่ยอมออกจากพื้นที่เพราะเป็นห่วงทรัพย์สินภายในบ้าน โดยมีเพียงคนชรา คนป่วย ที่อพยพออกไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวเท่านั้น ตนเกรงว่าหากน้ำจากลำน้ำชีไหลเข้ามาสมทบทางเจ้าหน้าที่จะไม่สามารถช่วยชาวบ้านได้ทัน อีกทั้งต้องตัดไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้แม้ระดับน้ำในพื้นที่ 2 ตำบลจะลดลงบ้างแล้ว แต่น้ำท่วมได้ขยายวงกว้าง รวมถึงพนังก้ันน้ำขาด 10 กว่าจุดต้องเร่งซ่อมแซม โดยน้ำได้เอ่อเข้าท่วมไร่นาระดับน้ำเกินกว่า 30 ซม. จึงอยากให้ชาวบ้านที่เหลืออพยพออกมา เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือหากมีน้ำไหลมาสมทบเพิ่ม ซึ่งช่วยให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์ขึ้น นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ ต.บึงเกลือ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงต้องเฝ้าระวังเพิ่มเติมอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเผยแพร่ข้อมูลของการไฟฟ้าภูมิภาค กรณีเขื่อนลำปาว จะปล่อยน้ำออกจากเขื่อนเพิ่มอีกจาก 15 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็นวันละ 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งจะทำให้พื้นที่ 5 อำเภอ ถูกน้ำท่วมอย่างหนักเมื่อเทียบกับปี 2554 ซึ่งปีนี้น้ำจะมากกว่า โดยเริ่มปล่อยน้ำออกจากเขื่อนลำปาวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 30 ก.ค. พร้อมเร่งดำเนินการยกมิเตอร์ไฟให้สูงขึ้น ในพื้นที่ลุ่มน้ำเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อประชาชน อย่างไรก็ตาม ได้ทำให้ชาวบ้านใน จ.ร้อยเอ็ด พากันวิตกกังวลมวลน้ำจากเขื่อนลำปาว ที่จะไหลมาลงลำน้ำชีใน อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด แล้วไหลผ่าน อ.จังหาร อ.โพธิ์ชัย อ.ทุ่งเขาหลวง อ.ธวัชบุรี อ.เสลภูมิ อ.อาจสามารถ และอ.พนมไพร ก่อนไหลต่อไป จ.ยโสธร