นายเรวัต ประสงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เรียกหัวหน้าส่วนราชการมาประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยในที่ประชุมได้สรุป พร้อมออกประกาศว่า มีพื้นที่ชุมชนริมน้ำ ถูกน้ำท่วมอย่างเป็นทางการแล้ว 8 อำเภอ 96 ตำบล 531 หมู่บ้าน รวม 28,359 ครัวเรือน ประกอบด้วย อำเภอเสนา บางบาล ผักไห่ พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน บางไทร บางปะหัน และท่าเรือ ดังนี้
1.อำเภอเสนา รวม 9 ตำบล 67 หมู่บ้าน 6,071 ครัวเรือน , 2. อำเภอบางบาล รวม 16 ตำบล 101 หมู่บ้าน 8,031 ครัวเรือน , 3.อำเภอผักไห่ รวม 14 ตำบล 66 หมู่บ้าน 2,065 ครัวเรือน ,4. อำเภอพระนครศรีอยุธยา รวม 12 ตำบล 60 หมู่บ้าน 2,252 ครัวเรือน ,5.อำเภอบางไทร รวม 23 ตำบล 124 หมู่บ้าน 5,186 ครัวเรือน ,6. อำเภอบางปะอิน รวม 11 ตำบล 81 หมู่บ้าน 4,217 ครัวเรือน ,7. อำเภอบางปะหัน รวม 3 ตำบล 12 หมู่บ้าน 486 ครัวเรือน ,8. อำเภอท่าเรือ รวม 8 ตำบล 20 หมู่บ้าน 2 ชุมชน 51 ครัวเรือน
ในจำนวนนี้ ได้มีการสำรวจเก็บหลักฐานครบ พร้อมประกาศเป็น เขตให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เหตุอุทกภัย หรือเขตภัยพิบัติน้ำท่วม เฉพาะในพื้นที่ชุมชนริมน้ำซึ่งถูกน้ำท่วม เพิ่มอีก 5 อำเภอ ทำให้ถึงขณะนี้ มีพื้นที่ประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วม อย่างเป็นทางการแล้ว รวมแล้ว 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเสนา บางบาล ผักไห่ พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน และท่าเรือ ส่วนอีก 2 อำเภอ คืออำเภอบางไทรและบางปะหัน อยู่ระหว่างการพิจารณาและรวมรวมเอกสารหลักฐาน
ด้าน นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้รับร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาภัยเทศบาลตำบลท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 8 เครื่อง และรถสูบน้ำ จำนวน 2 คัน เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำในเขตพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายหลังจากที่เกิดน้ำจากแม่น้ำป่าสักเอ่อย้อนเข้าท่อระบายน้ำของเทศบาล เข้าท่วมในพื้นที่ดังกล่าว ปัจจุบัน สามารถควบคุมการไหลทะลักของน้ำได้แล้ว