นาย ฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - ปัจจุบัน มีจังหวัดได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน 48 จังหวัด 310 อำเภอ 720 ตำบล 1,768 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และ พิจิตร ภาคกลาง 14 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม นครนายก ประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี หนองคาย สกลนคร นครพนม บึงกาฬ อุดรธานี เลย หนองบัวลำภู และ ขอนแก่น ภาคตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา และสระแก้ว บ้านเรือนเสียหาย 21,380 หลังคาเรือน โรงเรียน 2 แห่ง วัด 5 แห่ง สถานที่ราชการ 3 แห่ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย และผู้เสียชีวิต 9 ราย ซึ่งรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ได้กำชับให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับฝ่ายปกครอง และหน่วยทหารในพื้นที่ ดูแลและให้การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่
อย่าง ไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพอากาศ กับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าในช่วงวันที่ 2 - 4 พ.ค. 59 และ 7 - 8 พ.ค. 59 บริเวณประเทศไทยตอนบน จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ มีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง จึงได้ประสานจังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ และมิสเตอร์เตือนภัย ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง