17 พ.ย.ที่ผ่านมา ทางการบราซิลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินพื้นที่กว่า 200 เมือง ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์เขื่อนเหมืองแร่แตกเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยทางการรัฐมินาสเกไรส์ เผยว่า ประกาศดังกล่าวรอบคลุมบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำรีโอโดเซทั้งหมด รวมถึงทุกเมืองที่ได้รับผลกระทบจากโคลนและกากแร่จากเขื่อนทั้ง 2 แห่งของเหมืองซามาร์โก ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนระหว่างบริษัทบีเอชพี บิลลิตัน สัญชาติออสเตรเลีย เจ้าของเหมืองขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ บริษัทวาเล บริษัทเหมืองแร่เหล็กที่ใหญ่ที่สุดในบราซิล
ทั้งนี้ โคลนน้ำเสียและกากแร่จากเขื่อน ได้ไหลลงสู่แม่น้ำในรัฐมินาสเกไรส์และรัฐเอสปิริโตซานโต เป็นทางยาวกว่า 500 กิโลเมตร สร้างความเสียหายรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมจากสารพิษปนเปื้อนในแหล่งน้ำที่ใช้อุปโภคบริโภค พืชผลทางการเกษตรและสัตว์น้ำล้มตายเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า หมู่บ้าน เบนโต โรดริเกวซ ซึ่งอยู่ใกล้กับเขื่อนนั้น ถูกทำลายราบจากกระแสน้ำโคลนที่ไหลเชี่ยว จนมีผู้เสียชีวิต 10 ราย และอีก 15 รายหายสาบสูญ