"หมอเจตน์" เผยวิป สนช.เสียงแตกปมถอดถอน "สมศักดิ์-นิคม" เชื่อที่ประชุมใหญ่ถกยาว ชี้ยากเอาผิด หากสำนวน ป.ป.ช.อ้างฐานความผิดตาม รธน.50 อย่างเดียว
เมื่อวันที่ 5 ต.ค. นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ในฐานะวิป สนช. กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช.จะตีกลับสำนวนการถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 เรื่องที่มาของ ส.ว.โดยมิชอบ คืนมาให้ สนช.พิจารณาถอดถอนตามเดิมว่า หลังจากที่ ป.ป.ช.ส่งเรื่องกลับคืนมายัง สนช.แล้ว ก็ต้องดูว่า ประธาน สนช.จะรับเรื่องหรือไม่ หากประธาน สนช.รับเรื่องเข้าสู่วาระ ก็จะส่งเรื่องมาให้วิป สนช.พิจารณากลั่นกรองก่อน แต่วิป สนช. คงไม่มีมติเด็ดขาดออกมาว่า จะดำเนินการถอดถอนได้หรือไม่ คงทำแค่ให้ความเห็นประกอบทางกฎหมายเท่านั้น เพื่อส่งให้ที่ประชุม สนช.ชุดใหญ่ลงมติตัดสินใจต่อไป ขณะนี้เสียงของ สนช.ยังแบ่งเป็นสองฝ่ายซึ่งฝ่ายที่เห็นว่า สนช.ไม่สามารถถอดถอนได้ก็มีอยู่จำนวนมากเหมือนกัน ดังนั้นที่ประชุมใหญ่ สนช.คงต้องถกกันยาว และพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ
นพ.เจตน์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า หากสำนวนที่ ป.ป.ช.ส่งคืนกลับมายัง สนช. ยืนยันว่าความผิดของนายสมศักดิ์ และนายนิคมเป็นไปตามฐานความผิดตามรัฐธรรมนูญปี 50 เพียงอย่างเดียว ไม่มีฐานความผิดตามกฎหมายอื่นประกอบด้วย คงลำบากในการพิจารณาถอดถอน เพราะขณะนี้รัฐธรรมนูญปี 50ไม่มีผลบังคับใช้แล้ว แต่ก็ยังมีช่องทางมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 57 ที่ระบุว่า เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับใช้แก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะเรื่องการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็เป็นเรื่องที่เคยปฏิบัติมาในอดีตอยู่แล้ว แต่คงต้องมีการหารือกันอีกครั้งในเรื่องนี้