พ.ต.อ.ณัฐพล ศุกระศร รองผบก. พ.ต.อ.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผกก. พ.ต.ท.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ รอง ผกก.สส. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสว แถลงข่าวการจับกุมตัวนายชวลิต บำรุงรส อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ซ.บางแวก 34 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม. คนขับรถรับของบริจาควัดสวนแก้ว พร้อมด้วยของกลาง เสิ้อเชิ้ต จำนวน 50 ตัว เสื้อคอโปโล จำนวน 50 ตัว และจับกุมนายจิรวัติ นามสุข อายุ 47 ปี อยู่บ้ายเลขที่ 22 ซ.เปรมฤทัย 23 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี ผู้ต้องหารับของโจร โดยมีพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เป็นผู้เสียหาย
ที่ก่อเหตุยักยอกเอาของที่ประชาชนบริจาคให้วัดสวนแก้ว นำไปขายให้กับพ่อค้ารับซื้อของเก่า ตนจึงได้สั่งชุดสืบสวนของ สภ.เมืองนนทบุรี เฝ้าดูพฤติกรรมของนายชวลิต บำรุงรส อายุ 66 ปี ผู้ต้องหน้าซึ่งทำหน้าที่ขับรถยนต์ของวัดสวนแก้วไปรับของบริจาคจากประชาชนตามจุดต่างๆ จนกระทั่งพบว่านายชวลิต ผู้ต้องหาเมื่อได้รับของบริจาคแล้ว นายชวลิตไม่นำเอาของบริจาคต่าง ๆ ไปที่ทำการมูลนิธิวัดสวนแก้ว แต่นายชวลิต ผู้ต้องหาได้นำเอาสิ่งของบริจาคไปขายให้กับนายจิรวัติ ซึ่งเป็นพ่อค้าขายเสื้อผ้าที่ตลาดนัดซอยเรวดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคน โดยจับกุมนายจิรวัติ ขณะกำลังยืนขายเสื้อผ้ามือสองอยู่ที่ตลาดนัดดังกล่าว พร้อมยึดของกลางเสื้อเชิ๊ต จำนวน 10 ตัว เสื้อคอโปโล จำนวน 9
เบื้องต้นนายจิรวัติ ให้การรับสารภาพว่าของกลางทั้งหมดรับซื้อมาจากนายชวลิต ในราคา 15.000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง แก่นายชวลิต ส่วนนายจิรวัติ แจ้งข้อหารับซื้อของโจร
อาตมาไม่ได้อยู่ที่วัดสวนแก้วแห่งนี้มากว่า 5 ปี จึงปล่อยให้คนพวกนี้ดำเนินการรับของบริจาคกันเอง แต่คนพวกนี้กับคิดไม่ซื่อยักยอกแม้กระทั่งของบริจาคให้วัดเขาเรียกว่าปล้นวัด ปล้นวัดไม่พอ ยังปล้นคนแก่ ปล้นเด็ก ปล้นหมาวัด เพราะของบริจาคพวกนี้เมื่อนำมาขายเงินที่ได้ก็จะเอามาเลี้ยงคนแก่ เด็ก และสุนัข ที่ทางวัดเลี้ยงไว้ อาตมาเคยเรียกมาสอบถามหลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีใครยอมรับ เพราะไม่มีของกลาง แต่ตอนนี้คงจะจนด้วยของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดมาได้ น่าสมเพชจริง