วันที่ 20 ส.ค. นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผวจ.สกลนคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิบูลย์ มุขพรหม ผกก.ตชด.23
ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร นำกำลัง เข้าตรวจสอบโรงชำแหละสุนัขแบบชั่วคราว ในป่าเขตพื้นที่ ระหว่างรอยต่อ บ้านพะโค ต.ท่าแร่ อ.เมือง กับ บ้านโคกสว่าง ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.สกลนคร หลังรับแจ้งจากเครือข่ายประชาชนต่อต้านการค้าสุนัขข้ามชาติ (Watchdog Thailand) โดยที่เกิดเหตุ โดยที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมปลายนา ลักลอบเปิดเป็นโรงชำแหละชั่วคราว
จากการตรวจค้นพบสุนัขถูกชำแหละแล้วรอบรรจุส่งออกจำหน่ายประมาณ 35 ตัว สุนัขที่ถูกเชือดคอนอนตายอีก 34 ตัว
รถกระบะโตโยตาวีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บธ 4118 สกลนคร กระบะหลังดัดแปลงเป็นกรงเหล็ก ภายในพบสุนัขสภาพอิดโรย 91 ตัว รวมทั้งหมด 160 ตัว อีกทั้งยังพบอุปกรณ์ใช้เชือดและชำแหละอีกจำนวนหนึ่ง จึงยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมจับกุมตัวนายพงษ์พันธ์ ราชบาศรี อายุ 28 ปี ชาว จ.สกลนคร ส่วนอีกหลายคน ขณะเข้าจับกุมต่างแยกย้ายกันหลบหนีไปได้ สอบสวนนายพงษ์พันธ์ ให้การรับสารภาพว่า เปิดชำแหละสุนัขส่งขายมานานกว่า 1 ปี ซึ่งจะแบ่งกันทำงาน มีกลุ่มตระเวนจับสุนัขมาให้ตนและเพื่อนอีก 3-4 คนที่มีหน้าที่ชำแหละ ซึ่งรับจ้างจากนายทุนรายหนึ่งที่ตนเช่าที่ดินทำนา ตัวละ 50 บาท โดยให้ทำเป็นทั้งเนื้อสดและเนื้อแห้ง ขายราคาตัวละประมาณ 200 -300 บาท ทั้งนี้ทราบว่าเป็นการทารุณสัตว์ แต่ต้องทำเพราะต้องการเงินหาเลี้ยงแม่ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.พลศักดิ์ บรรจงศิริ ผบก.ภ.จ.สกลนคร เผยว่า
สอบสวนเบื้องต้นพบว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ค้าหันมาชำแหละเนื้อส่งขายมากกว่าส่งขายแบบมีชีวิตเพราะเจ้าหน้าที่กวดขันมากขึ้น รวมถึงประชาชนในพื้นที่ร่วมมือแจ้งเบาะแส และระยะนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงสูง การส่งสุนัขกับกรงเหล็กหนักไป อาจกลัวตกลงแม่น้ำโขง อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตรวจตราแหล่งค้าสุนัข ร่วมถึงนายทุนที่ว่าจ้างมาดำเนินคดีต่อไป