หมายจับอีก 2 มือบึ้มกรุง แฉภาพคล้ายมือระเบิดแบงก์เมืองเบตง

ออกหมายจับเพิ่ม 2 มือระเบิดคดีบึ้มถล่มกรุงส่งท้ายปี49 เป็นจุดที่บริเวณห้างซีคอนสแควร์ ´เสรีพิศุทธ์´ ลั่นรู้ชื่อ-ที่อยู่หมดเรียบร้อยแล้ว แต่ขออุบไต๋เอาไว้ก่อนเพื่อประโยชน์ต่อรูปคดี หากมีหลักฐานครบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วถึงจะเปิดให้รู้ เผยที่ซีคอนฯยังเหลือผู้ต้องสงสัย เป็นหญิง 2 ชาย 1 กำลังเร่งรวบรวมหลักฐาน ส่วนจุดระเบิดที่ห้างเมเจอร์รัชโยธิน ตำรวจยอม โชว์ภาพวงจรปิดแล้ว เห็นรูปพรรณสัณฐานชัดเจน เป็นหนุ่มขาขวาเป๋ สวมหมวกแก๊ป ถือถุงระเบิดไปหย่อนถังขยะร้านแมคโดนัลด์ ´พล.ต.อ.พัชรวาท´ ระบุยังคงตั้งรางวัลนำจับ รายละ 1 ล้านบาทให้ผู้ชี้เบาะแสเหมือนเดิม แต่จะเกี่ยวข้องโยงใยกับกลุ่มก่อความไม่สงบภาคใต้ยังตอบไม่ได้ แฉภาพในซีคอนฯ ใกล้เคียง ´ถวัลย์ศักดิ์ แปแนะ´ ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดแบงก์ในเบตง

เกี่ยวกับคดีวางระเบิดในกรุงเทพฯและ จ.นนทบุรี 9 จุด เมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค. 49-1 ม.ค. 50 หลังจากตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหาชุดแรกไปแล้ว 2 คน คือ ที่จุดระเบิดบริเวณ ป้อมตำรวจสี่แยกสะพานควาย และที่จุดระเบิดภายในร้านฟาสต์ฟู้ด ห้างเมเจอร์รัชโยธิน ล่าสุดที่ปรึกษานายกฯให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศทำนองว่า เหตุระเบิดในกรุงเทพฯและการเกิดเหตุการณ์ไม่สงบทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่เกี่ยวเนื่องกัน แต่อาจมีใครบางคนที่โยงใยอยู่เบื้องหลังกับระเบิดป่วนกรุงได้ว่าจ้างกลุ่มติดอาวุธดังกล่าวมาก่อเหตุเนื่องจากรูปแบบของระเบิดที่ใช้เป็นแบบเดียวกับที่พบเห็นทั่วไปทางภาคใต้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร. (ปป) พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผช.ผบ.ตร. (ปป1) พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผช.ผบ.ตร.(ปป2) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายระเบิดกรุงเทพฯและนนทบุรี 9 จุด ได้ประชุมเพื่อตรวจความคืบหน้าของคดีใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้แถลงข่าวผลการประชุมว่า คดีลอบวางระเบิดช่วงปลายปีต่อเนื่องวันขึ้นปีใหม่ มีการออกหมายจับไปแล้ว 2 ราย คือที่สี่แยกสะพานควาย และที่ห้างเมเจอร์รัชโยธิน โดยมีการประกาศให้สินบนรางวัลผู้ที่ชี้เบาะแสและสามารถจับกุมคนร้ายได้เป็นเงิน 1 ล้านบาท

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับ เมื่อวันที่ 21 มี.ค. พนักงานสอบสวนได้ไปขอศาลออกหมายจับคดีที่ห้างซีคอนสแควร์ จากการรวบรวมพยานหลักฐานผู้ต้องสงสัยมีทั้งหมด 5 ราย แต่จากการตรวจสอบพยานหลักฐาน ชัดเจนตอนนี้ ได้ขอศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับชุดแรก 2 คน เราได้ทำภาพเชิงซ้อนแล้วสงสัยน่าจะเป็นบุคคลคนนี้หน้านี้ มีที่อยู่ต่าง ๆ อะไรชัดเจนแล้ว แต่ภาพเชิงซ้อนยังไม่ได้ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งการทำงานของพนักงานสอบสวนจะต้องให้แน่ใจจริง ๆ ไม่มีการจับแพะจับแกะจับอะไรผิดพลาดต่าง ๆ ถึงแม้เราจะได้รูปร่างหน้าตา ทำภาพเชิงซ้อนมาชัดเจนว่าตรงกับบุคคลคนนี้ เรา ´มีชื่อ´ แล้วแต่ก็ยังไม่ระบุไว้ในหมายจับว่า ´ชื่อ´ อะไรจนกว่าจะมีหลักฐานร้อยเปอร์เซ็นต์เราถึงจะโอเค แค่ 99 เปอร์เซ็นต์ ตนจะยังไม่ระบุ

ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าว ได้เปิดภาพวงจรปิดที่สามารถจับภาพคนร้ายพร้อมบรรยายว่า ภาพผู้ต้องหาในคดีที่ห้าง เมเจอร์ฯปรากฏชัดเจนแต่ขณะนี้เรายังไม่ทราบชื่อ จะสังเกตเห็นผู้ต้องสงสัยถือถุงเดินผ่านไปมาภายในห้างประมาณเวลา 16.46 น. วันที่ 31 ธ.ค. 49 ในถุงใส่ของมีน้ำหนักคาดว่าจะเป็นระเบิด จากนั้นเวลาประมาณ 16.59 น. นำถุงไปทิ้งถังขยะร้านแมคโดนัลด์แล้วรีบเดินออกจากห้างไปเมื่อเวลา 17.08 น. ภาพที่เห็นทั้งหมดไม่มีคนอื่นเป็นที่น่าสงสัยนอกจากคนในภาพคนเดียว เป็นชาย อายุ 25-30 ปี สูง 170 ซม. สวมเสื้อ เชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีเข้ม สวมหมวกแก๊ปอำพรางใบหน้า เดินขาขวากะโผลกกะเผลกเล็กน้อย ถือถุงหรือกระเป๋าสีดำ

สำหรับจุดระเบิดที่ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ได้อกหมายจับ ชาย 2 คน ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 526 และ 527/2550 รายแรกเป็นชายสูง 158 เซนติเมตร หน้ากลม หน้าผากกว้าง โดยมีภาพประกอบจาก กล้องวงจรปิดซึ่งจับภาพคนร้ายได้ตัดเป็นภาพนิ่ง 4 ภาพไปเป็นหลักฐานขอหมายจับ ส่วนอีกคนเป็นชายสูง 163 เซนติเมตร ศีรษะกลม ผมดำยาว หน้าผากกว้าง คิ้วดก โดยเป็นภาพที่ปรากฏบนกล้องวงจรปิด ขณะที่อีก 3 คนที่เชื่อว่าร่วมขบวนการด้วยนั้นเป็นหญิง 2 คน และชายอีก 1 คน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป

ผู้ต้องหาทั้งหมดที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด 4 คน ขณะนี้เบื้องต้นได้

แจ้งข้อหา 1. ก่อการร้าย

2. พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

3. กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่ ผู้อื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น และ

4. มีระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้หากประชาชนสามารถชี้เบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้จะได้สินบนนำจับเป็นเงิน 1 ล้านบาท ส่วนเหตุวางระเบิดที่เหลืออีก 6 จุด มีความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนไปมาก

ต่อข้อถามว่า ออกหมายจับแล้วเมื่อไรจะจับคนร้ายได้อย่างเป็นรูปธรรม พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า กำลังสืบสวนติดตามอยู่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่ และมีความเชื่อว่าจะสามารถจับตัวคนร้ายได้ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 1 ในผู้ต้องหาระเบิดที่ซีคอนสแควร์ ที่ถูกออกหมายจับ ซึ่งเป็นชายผมยาว หน้าผากกว้าง คิ้วหนา สูง 163 ซม. รูปพรรณ สัณฐานใกล้เคียงกับนายถวัลย์ศักดิ์ แปแนะ อดีต นักศึกษา ม.รามคำแหง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเบตง ในคดีลอบวางระเบิดธนาคารพาณิชย์หลายแห่งใน อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 49 ซึ่งสื่อมวลชนเคยเกาะติดนำเสนอข่าวของนายถวัลย์ศักดิ์ มาหลายสัปดาห์แล้ว

ขณะเดียวกัน พล.อ.วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง อดีตรองผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ออกมาระบุว่าแนวร่วมก่อการร้ายในภาคใต้มีส่วนร่วมในการก่อเหตุวางระเบิดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 49 ที่ผ่านมา ว่าประเด็นดังกล่าวทิ้งไปไม่ได้เพราะว่าลักษณะของการวางระเบิดและวิธีการใช้ระเบิดมันเป็นรูปแบบเดียวกันกับที่ใช้ในพื้นที่ภาคใต้ มีส่วนประกอบเป็น ´นาฬิกาดิจิทัล´ เทคโนโลยีรูปแบบนี้มันต้องมาจากทางใต้แน่นอน ซึ่งเราได้หลักฐานนี้จากระเบิด 2 ลูกที่ไม่ทำงาน รวมทั้งบันทึกจากกล้องวงจรปิดก็สามารถจับภาพบุคคลที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนคนในพื้นที่ภาคใต้ได้ ดังนั้นประเด็นนี้จึงต้องคงไว้ว่าต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับทางใต้แน่นอน ทั้งนี้ตนมองว่าการกระทำดังกล่าวต้องการดิสเครดิตรัฐบาลอย่างเดียวและมองว่ามีกลุ่มที่หวังผลทางการเมืองไปจ้างกลุ่มผู้ก่อการร้ายมาก่อเหตุเพราะต้องการดิสเครดิตรัฐบาลทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมา เนื่องจาก เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงเวลาของความสนุกสนาน แต่การก่อเหตุดังกล่าวก็เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลป้องกันเหตุไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มผู้ว่าจ้างกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้มีความเชื่อมโยงกันได้อย่างไร พล.อ.วัธนชัย ตอบว่า ถ้าจับระเบิดนี้ได้ก็ต้องสืบได้ ในระดับปฏิบัติเรารู้ตัวผู้กระทำ มีการนำตัวมาสอบและได้ข้อมูลจำนวนมาก ถึงระดับโครงสร้างปฏิบัติการ แต่ตัว ´ผู้สั่งการ´หรือให้เงินว่าจ้างนั้นยังไม่ทราบตัว ต้องมีการพิสูจน์กันว่าเชื่อมโยงกันอย่างไร แต่คนในกลุ่มอำนาจเก่าที่ทำนั้นก็หวังผลอย่างอื่น ไม่ได้ หวังผลในเรื่องการล้มล้างหรือแบ่งแยกดินแดนแต่อย่างใด เมื่อถามย้ำว่าเหตุใดจึงมีความเชื่อในเรื่องดังกล่าว พล.อ.วัธนชัย กล่าวว่า เป็นการประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดเข้ามารวมทั้งหลักฐานต่าง ๆ ทั้งวัตถุระเบิดที่ใช้และรูปภาพคนที่ก่อเหตุ ถ้าไม่มีใครจ้างมาและมาด้วยอุดมการณ์นั้นถามว่ามาเองหรือ และมาเพื่ออะไร

´เราพอรู้ระดับคนสั่งการแล้วว่าเป็นพวกไหน และอยู่ตรงไหน เป็นเครือข่ายเดิมที่ทำงานกันอยู่ ให้คุณไปรวมพวกเสียประโยชน์ทั้งหมดในอดีต ณ วันนี้ว่ามีใครบ้าง ขณะนี้ทุกคนที่เสียประโยชน์ตรงนั้นก็ต่างคนต่างจะทำรัฐบาลนี้เจ๊งไป แต่เป็นในแบบต่างคนต่างคิด รัฐบาลยังไม่สามารถทำอะไรกับคนกลุ่มนี้ได้ ได้แต่เฝ้าระวังเท่านั้น ให้ทุกคนไปช่วยกันดู ผู้สูญเสียอำนาจจากรัฐบาลใหม่ หลาย ๆ คนหายไปอยู่ที่ไหนกันบ้าง ที่กร่าง ๆ สมัยก่อนไปอยู่ไหนกัน´

พล.อ.วัธนชัย ยังกล่าวถึงการสร้างกระแสข่าวการก่อเหตุร้ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า เป็นการขู่ตามเรื่องที่เคยผ่านมาแล้ว และยังมีการข่าวเดิมแจ้งไว้อยู่แล้วตั้งแต่ช่วงวันมาฆบูชา เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ข่าวเดิมที่ระบุไว้นั้นมันยังไม่ทำงาน ตนคิดว่าก็น่าจะยังอยู่ใน กท.นี่เอง การเฝ้าระวังจึงยังต้องมีเช่นเดิมเพราะของที่จะใช้ปฏิบัติงานยังอยู่ใน กท. แต่คนอาจจะกลับไปอยู่ในพื้นที่ก่อน นอกจากนั้นตนทราบมาว่ามีการกว้านซื้อซิมมือถือในพื้นที่ฝั่งธนฯ เป็นจำนวนมากเมื่อไม่นานมานี้ แต่อาจจะนำไปใช้ในพื้นที่ภาคใต้มากกว่า กท. นอกจากนั้นในพื้นที่ภาคใต้ยังมีการใช้รีโมตคอนโทรลคุณภาพดีที่มีวางขายในประเทศมาเลเซีย โดยแหล่งผลิตจากยุโรปมาเป็นตัวจุดชนวนระเบิดแทนซิมการ์ดด้วย.