ส.ต.ต.โต้สาวโอเกะ! เล่าเป็นหนังคนละม้วน โบ้ย ´สิบล้อ´ ชนแขนขาด

คดีสีกากีจีบไม่สำเร็จฟันแขนสาวขาดสยอง ส.ต.ต. ต้นเรื่องออกตัวโต้แหลก อ้างไม่ได้ทำร้าย-ลวนลามใคร เปรยให้สืบประวัติคู่กรณีว่าเป็นมาอย่างไร พร้อมท้าพิสูจน์ความจริง ดูรูปถนนที่เกิดเหตุ ก็จะรู้ว่าแขนที่ขาดเกิดจากอุบัติเหตุ 10 ล้อเฉี่ยวชนชัวร์ เสรี ไม่สนสั่งเชือดให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง แถมเปลี่ยนพนักงานสอบสวนยกชุด ลั่นให้เวลา 3 วัน ส่งเรื่องมาให้โดยตรง พบผู้บังคับบัญชาปล่อยปละละเลย มีสิทธิโดนด้วย ทำเอาผู้การฯสระบุรี นิ่งเฉยไม่ได้เข้าเกียร์เซ็นคำสั่งเด้ง ผกก.บ้านหมอ ร.ต.ต.ร้อยเวร เจ้าของคดี เข้ากรุ ช่วยราชการ 30 วันทันที ผบช.ภ.1 ลงพื้นที่ เยี่ยมคนเจ็บ กำชับตำรวจ อ่างทอง คุ้มกันความปลอดภัยอย่างดี

กรณี น.ส.สุพรรณษา วิชานันท์ อายุ 24 ปี สาวร้านคาราโอเกะ บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. กรณีที่ถูก นายนิรัตน์ กองธรรม อายุ 23 ปี นายประสาน บุญดก อายุ 25 ปี อาสาสมัครรักษาความปลอดภัย และ ส.ต.ต.นิรุต ธรรมทรัพย์ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ขณะขับรถจยย.กลับบ้าน โดยใช้มีดสปาร์ต้าฟันแขนขวาจนขาดกระเด็น ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ ขาขวาหักอีก 3 ท่อน สาเหตุเนื่องจากคู่กรณีไม่พอใจหลังพยายามจีบอยู่นาน แต่ผู้เสียหายไม่เล่นด้วย เลยขี่จยย.ตามไปแก้แค้น เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ทั้งนี้หลังไปแจ้งความคดีส่อแววไม่คืบหน้า มีการช่วยเหลือตำรวจคู่กรณีเห็นได้ชัดจึงต้องเข้ามาร้องเรียนถึง สตช. อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.รณรงค์ ยั่งยืน ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.และโฆษก สตช. ได้รับเรื่องไว้ พร้อมระบุว่า หากพบว่าตำรวจคนดังกล่าวทำผิดจริงจะถูกลงโทษสถานหนัก อีกทั้งพนักงานสอบสวนก็อาจมีความผิดด้วย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีตำรวจโหดทำร้ายประชาชน ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันที่ 22 มี.ค.พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร.กล่าวว่า เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ในการก่อเหตุมีตำรวจร่วมอยู่ด้วย เบื้องต้นได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ปรัชญา สุทธปรีดา ผบช.ภ.1 ไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายแล้วให้รายงานผลมาให้ตนทราบภายใน 3 วัน ขณะเดียวกันจากหลักฐานเบื้องต้น พล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนปาณี ผบก.ภ.จ.สระ บุรี ได้มีคำสั่งที่ 55/2550 ลงวันที่ 21 มี.ค.ให้ ส.ต.ต.นิรุต ธรรมทรัพย์ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.อ.บ้านหมอ ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และแต่งตั้งพนักงานสอบสวนขึ้นมาทำคดีใหม่

มีรายงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลคดีเป็นพิเศษ พร้อมให้เวลา 3 วัน รายงานผลโดยตรงมาที่ตนเอง หากการตรวจสอบพบว่า ผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.ต.นิรุต ปล่อยปละละเลย ก็จะมีการลงโทษตามระเบียบขั้นตอนต่อไป

ที่ จ.สระบุรี ส่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ปรัญญา สุทธปรีดา ผบช.ภ.1 ได้เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.สระบุรี เพื่อติดตามคดีดังกล่าว โดยเรียก พล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนปาณี ผบก.ภ.จ.สระบุรี พ.ต.อ.มนธน ทิพย์จันทร์ รอง ผบก. เข้าร่วมประชุมหารือ พร้อมกันนี้ได้สั่งให้เรียกตัว พ.ต.อ.อนุสรณ์ พินิจศักดิ์ ผกก.สภ.อ.บ้านหมอ และ ร.ต.ต.พณวรรณ มาตราช ร้อยเวร เจ้าของคดีนำสำนวนมาให้ตรวจสอบ อีกทั้งให้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาสอบปากคำเพิ่มเติมโดยใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ไม่อนุญาติให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด

หลังประชุมเครียดเสร็จ พล.ต.ท.ปรัญญา กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นคดีครึกโครมอยู่ในความสนใจของประชาชน อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังเป็นเจ้าหน้าที่ด้วย จึงสั่งให้ระดมชุดสอบสวนมือดีเข้ามาเสริมการทำงาน พร้อมกำชับให้ทุกฝ่ายเร่งรัดทำคดีอย่างรอบคอบ และให้รวบรวมหลักฐาน-พยานทั้งหมดตั้งแต่วันเกิดเหตุมาสอบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯที่นำคนเจ็บส่ง รพ. แพทย์ รพ.บ้านหมอ ที่รับผู้ป่วยคนแรก รวมทั้งให้เข้าตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา ยานพาหนะที่ใช้วันเกิดเหตุ เสื้อผ้าที่สวมใส่ ทั้งนี้เชื่อว่าอาจจะมีบางอย่างสามารถนำมาเป็นหลักฐานทางคดีได้

ผบช.ภ.1 กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยทุกคนให้การปฎิเสธ และขอประกันตัวไป วันนี้ได้นำมาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งทุกคนยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องนี้เป็นสิทธิของผู้ต้องหา

ต่อมาบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ท.ปรัญญา สุทธปรีดา ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนาปราณี ผบก.ภ.จ.สระบุรี ได้เดินทางมาที่อาคารพาณิชย์ เลขที่ 31 หมู่ 4 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง ที่พักของ น.ส. สุพรรณษา เพื่อเยี่ยมเยียนอาการบาดเจ็บพร้อมสอบถามข้อมูลที่เกิดขึ้น โดย พล.ต.ท.ปรัญญา และนายบุรินทร์ วิจิตรศิริ นายกสมาคมป้องกันอาชญากรรม จ.สระบุรี ได้ได้มอบกระเช้า และเงินสดจำนวนหนึ่งให้กับคนเจ็บ ทั้งนี้ น.ส.สุพรรณษาได้เล่าเหตุการณ์อย่างละเอียดให้กับเจ้าหน้าที่ได้ฟังอีกครั้ง ซึ่งญาติ น.ส.สุพรรณษา คนหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ระบุว่า หลังเกิดเรื่องกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ข่มขู่พยานที่เห็นเหตุการณ์ด้วย อีกทั้งยังสร้างพยานเท็จมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ด้วย ที่น่าสงสารคือ น.ส.สุพรรณษา ตอนนี้แทบจะมีเหลือใครเลย แม่ก็นอนป่วยรักษามะเร็งอยู่ที่ รพ.ลพบุรี

พล.ต.ท.ปรัญญา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้มาเพื่อให้กำลังใจ สำหรับเรื่องคดีนั้นเบื้องต้นมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวหาออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว นอกจากนี้ยังตั้งกรรมการสอบวินัยผู้ที่เกี่ยวข้อง หากมีนายตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีก็ต้องว่าไปตามระเบียบ โดยคดีนี้ตนได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบช.ภ.1 เข้ามาดูแล ให้ความเป็นธรรม พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.อ่างทอง คุ้มกันความปลอดภัยกับ น.ส.สุพรรณษา ที่หลบมาพักฟื้นที่บ้านเกิดด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเย็นวันเดียวกัน พ.ต.อ.มนธน เปิดเผยว่า พล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนปาณี ผบก.ภ.จ.สระบุรี ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.อนุสรณ์ ผกก.บ้านหมอ และ ร.ต.ต.พณวรรณ ร้อยเวร เจ้าของคดี มาช่วยราชการที่ ภ.จ.สระบุรี เป็นเวลา 30 วัน โดยให้ พ.ต.อ.อมร ศรีทุนะโยธิน ผกก.อก.ภ.จ.สระบุรี รักษาการแทน

ด้าน ส.ต.ต.นิรุต ให้สัมภาษณ์สดผ่านรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งว่า ขณะเกิดเหตุตนนั่งกินเหล้าอยู่กับน้องอาสาสมัครฯ 2 คน กระทั่งตี 2 กว่า เห็น น.ส.สุพรรณษามาที่ร้าน ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เนื่องจากเห็นผู้ชายโต๊ะข้าง ๆ คนหนึ่งรินเหล้าให้ ตอนแรกยังนึกว่าแฟนเลย จนน้องที่นั่งด้วยกันเดินเข้าไปคุยด้วย หลังกลับมาที่โต๊ะน้องก็บอกว่าผู้หญิงชอบตน ก็เลยย้ายโต๊ะไปนั่งด้วยกัน สักพักฝ่ายหญิงบอกว่าหนาว ตนก็เลยถอดเสื้อแจ๊กเกตให้ พร้อมถามว่ามีแฟนหรือยัง เนื่องจากไม่อยากมีปัญหา คำถามดังกล่าวทำให้ น.ส.สุพรรณษาไม่พอใจลุกขึ้นโวยวาย ทำเอาตนต้องรีบขอโทษ ทั้งนี้ก่อนจะกลับตนยังจ่ายเงินให้กับอีกฝ่ายด้วย มาทราบทีหลังว่าผู้หญิงไม่มีเงิน ขอยืนยันว่าไม่ได้มีการลวนลามขณะนั่งอยู่ที่โต๊ะ

สีกากีตกเป็นผู้ต้องหา กล่าวต่ออีกว่า ช่วงน.ส.สุพรรณษาเดินไปที่รถ จยย.ตนได้เดินตามไปเพื่อจะเอาเสื้อคืน แต่คู่กรณียึกยักเลยมีการดึงกุญแจรถ โดยฝ่ายหญิงชวนตนไปกินเหล้าต่อสองต่อสอง ตนทิ้งเพื่อนไม่ได้จึงปฎิเสธไป แต่ด้วยความไม่อยากให้เสียน้ำใจ ตนเลยชวนกลับไปว่าไปร้องเพลงที่ห้องกันมั้ย แต่ผู้หญิงปฎิเสธ เลยต่างคนต่างแยกกันไป ตนก็กลับมานั่งกินเหล้าต่อไม่ได้ตามไปทำร้ายใครอย่างที่เป็นข่าว ทั้งนี้ระหว่างนั่งดื่มกันอยู่ในร้านไม่มีใครเห็น เนื่องจากเจ้าของร้านและเด็กเสริฟร์กลับบ้านไปหมดแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นตนอยากให้สื่อตรวจสอบประวัติ น.ส.สุพรรณษา มีประวัติเป็นมาอย่างไร ที่สำคัญขอท้าพิสูจน์ให้เอารูปที่เกิดเหตุบนถนนมาวิเคราะห์ดูให้ถี่ถ้วน โดยดูทิศทางของรถบนถนนแขนที่ขาดอาจเกิดจากอุบัติเหตุ ไปเฉี่ยวชนกับรถสิบล้อก็ได้ ต้องฝากให้ทุกคนให้ความเป็นธรรมกับตนบ้าง เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้มีโอกาสออกมาพูดเลย