ตร.นำตัว รปภ.ทำแผนประกอบคำรับสารภาพฆ่าสาวป.โท

อ้างแค้นที่ถูกด่าบุพการี ไม่ได้เป็นเพราะตัวเองแอบชอบ ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงจำนวนประมาณ 100 คนมายืนรอหวิดถูกรุมประชาทัณฑ์

เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (21 มี.ค.) ที่สน.ทุ่งสองห้อง พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.วัชรพงศ์ ดำรงค์ศรี ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง นำตัวนายวิชัย หรือ ชัย รีมูล อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอาคารแอ็ดโฮมเพลส อพาร์ตเมนท์ ซอยแจ้งวัฒนะ 1 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ และเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุใช้มีดแทงคอและใช้กรรไกรปักอก น.ส.วันวิสาข์ ชัยสะอาด อายุ 29 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง และนักศึกษาปริญญาโท สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักเลขที่ 309 ชั้น 3 ของอพาร์ตเมนท์ดังกล่าว มาสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ต้องหา จะลงมือฆ่าผู้ตายเพียงเพราะสาเหตุความแค้นที่ถูกผู้ตายด่าบุพการี ตามที่รับสารภาพเมื่อเวลา 20.30 น.ของวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา

จากการสอบปากคำนายวิชัย ให้การรับสารภาพ แต่อ้างว่า สาเหตุที่ลงมือฆ่าผู้ตายนั้น มาจากความแค้นที่ถูกผู้ตายด่าบุพการี ไม่ได้เป็นเพราะตัวเองแอบชอบอยู่แต่อย่างใด โดยก่อนเกิดเหตุนั้น ผู้ตายได้ขับรถเก๋งมาจอดในลานจอดรถของอาคาร แต่เนื่องจากผู้ตายนำรถไปจอดไว้ในที่จอดของคนอื่น ตนเองจึงเดินไปบอกให้ผู้ตายเลื่อนรถออกไปจอดที่อื่น แต่ปรากฏว่า ผู้ตายไม่ยอมเลื่อนรถและเกิดมีปากเสียงกับตนอย่างรุนแรง อีกทั้งยังด่าพ่อแม่ตนอีกด้วย

นายวิชัย ให้การต่อว่า ด้วยความแค้นที่ถูกผู้ตายด่าบุพการีของตน จึงตั้งใจจะเข้าไปชกผู้ตายทันที แต่ตัดสินใจรอจะขึ้นไปทำร้ายร่างกายผู้ตายที่ห้องพัก โดยช่วงกลางดึก ได้เข้าไปนั่งอยู่ที่โซฟาชั้นล่างหน้าร้านขายของชำ เพื่อรอให้ผู้พักอาศัยคนอื่นใช้คีย์การ์ดเข้าไปในตัวอาคาร เพราะตนเองไม่มีคีย์การ์ด จนกระทั่งมีสามีภรรยาขชาวสิงคโปรคู่หนึ่งที่พักอยู่ข้างห้องผู้ตาย กลับมาจากข้างนอกแล้วใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไป

นายวิชัย กล่าวต่อว่า เมื่อเห็นทั้งคนเดินผ่านไปแล้ว ตนจึงรีบนำหนังสือพิมพ์ไปคั่นที่ประตูไว้ทันที เมื่อปลอดคน ตนจึงเปิดประตูเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 จากนั้นก็เดินเลี้ยวออกไปเปิดประตูทางบันไดหนีไฟ และเข้าไปแอบอยู่หลังตู้ เพราะคู่สามีภรรยาข้างห้องของผู้ตายยังไม่ปิดไฟนอน จนเวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที ข้างห้องผู้ตายผิดไฟนอนเรียบร้อย ตนจึงเดินขึ้นบันหนีไฟไปที่ชั้น 3 แล้วเคาะห้องเรียกผู้ตาย

"พอเขาเปิดประตูออกมา ผมก็ชกเข้าที่หน้าไป 1 ครั้งจนเขาล้มลง แล้วตามเข้าไปเตะหน้าอีกครั้ง จากนั้นผมกับเขาก็สู้กันบนเตียง ผมจับหัวเขาโขกกับผนังไป 3 ครั้ง จนตัวเขาร่วงลงมาจากเตียงมาอยู่บนพื้น พอผมตามลงมาเขาก็หยิบมีดในห้องจะมาแทงผม ผมเลยเตะมือเขาจนมีดหลุดมือ ก่อนที่จะหยิบมีดมาแทงเข้าไปที่คอเขา 1 ครั้ง แต่ผมคิดว่า คงจะไม่โดนจุดสำคัญเขาเลยพยายามจะสู้ผมอีก" นายวิชัย ให้การ

นายวิชัย กล่าวต่อว่า เมื่อผู้ตายพยายามต่อสู้กับตนอีก ตนเลยเตะเข้าไปที่คออีกครั้ง ซึ่งคาดว่าคงจะไปโดนแผลที่คอ ผู้ตายจึงร้องเสียงดัง ตนจึงหยิบเสื้อชั้นในผู้ตายมาอุดปากเอาไว้เพื่อไม่ให้ร้อง แต่ผู้ตายก็ยังใช้ด้ามไว้กวาดตีใส่ตนอีก ด้วยความโมโหตนจึงคว้ากรรไกรในห้องแทงเข้าหน้าอกผู้ตายไปหลายครั้งจนผู้ตายเสียชีวิต จากนั้นก็รีบเข้าไปล้างมือในห้องน้ำ แล้วเดินลงมาทางบันไดหนีไฟชั้นก่อนจะเปิดหน้าต่างเล็กๆแล้วกระโดดลงมากันสาด แล้วไปทำงานตามปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 ได้ถามนายวิชัยว่า เพราะสาเหตุจากความแค้น บันดาลโทสะนั้น ทำไมไม่ตามไปชกผู้ตายทันทีที่ถูกด่า แต่กลับรอเวลา อีกทั้งยังตามขึ้นไปชกผู้ตายถึงที่ห้องแล้วลงมือฆ่า นายวิชัย กลับอำอึ้ง และตอบแต่เพียงว่า ผู้ตายเดินหนีขึ้นอพาร์ทเม้นต์ไปก่อน จากนั้น พล.ต.ต.อำนวย ได้ถามนายวิชัย ว่าต้องการจะขอขมาศพหรือไม่ นายวิชัย กลับปฎิเสธว่า ไม่ต้องการ

"ผมยอมรับสารภาพ แต่ผมไม่ขอขมาเขาและไม่ให้อภัยเขา เพราะผมแค้นที่เขามาด่าพ่อด่าแม่ผม" นายวิชัย กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ต่อมาเวลา 15.00 น.พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.วัชรพงศ์ ดำรงค์ศรี ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เจ้าหน้าที่สายตรวจ และฝ่ายสืบสวนสน.ทุ่งสองห้อง ได้ควบคุมตัวนายวิชัยไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุจนครบทุกจุด ตั้งแต่จุดที่ทะเลาะกับผู้ตายที่ลานจอดรถ จนไปถึงห้องพักผู้ตายที่เข้านายวิชัยเข้าไปทำร้ายร่างกายและลงมือฆ่าอย่างละเอียดทุกขั้นตอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุได้มีบรรดาเพื่อนร่วมงานของผู้ตาย และชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงจำนวนประมาณ 100 คนมายืนรอกันเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งด่าทอนายวิชัย ว่ามีจิดใจโหดเหี้ยม ฆ่าผู้หญิงได้ลงคอ จนเจ้าหน้าที่ต้องนำตัวนายวิชัย เข้าทางด้านหลังอาคาร และใช้เชือกกั้นไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องมาในตัวอาคารเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า กระทั่งการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวนายวิชัย ออกไปขึ้นรถทางด้านหลัง เพราะเกรงว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์ แต่เมื่อเพื่อนผู้ตายและชาวบ้านเห็นเข้า จึงพากันรีบไปวิ่งไปล้อมรถกระบะของเจ้าหน้าที่ไว้ไม่ให้ออกจากที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งทุบกระจกรถ ขว้างปาก้อนอิฐใส่รถ บางรายถึงกับปีนขึ้นไปเกาะบนกระโปรงรถไว้ จนเจ้าหน้าที่สายตรวจต้องรีบเข้ามากันตัวออกไป พร้อมขับรถนำตัวนายวิชัยออกไปทันที เพราะเกรงว่าเหตุการณ์จะบานปลาย