เมื่อเวลา 02.15 น. วันที่ 15 ก.ค. ร.ต.ท.ธนวรรธน์ วรพัฒน์รัชฎากุล พนักงานสอบสวน สน.บางนา
รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้พระอุโบสถ วัดบางนานอก เลขที่ 18 ถนนสรรพาวุธ แขวงและเขตบางนา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผกก.สน.บางนา ชุดสืบสวน และรถน้ำดับเพลิงของหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตบางนาและกทม. 5 คันที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้พระอุโบสถ ครึ่งปูนครึ่งไม้อย่างรุนแรง โดยมีเสียงดังของหลังคาและคานไม้ของตัวพระอุโบสถพังลงมาเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงเร่งระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงใช้เวลา 30 นาที เพลิงสงบ ตรวจสอบพบตัวพระอุโบสถถูกเพลิงไหม้เสียหาย ทั้งหลังจนหลังคาพังทลายลงมาทั้งแถบ นอกจากนี้ “หลวงพ่อองค์ดำ” ซึ่งเป็นประธาน อายุยาวนานกว่า 130 ปี ยังถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งองค์ด้วย นอกจากนี้ยังพบผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อนาย สมบูรณ์ พรรษา อายุ 22 ปี เป็นอาสาสมัคร อปพร. ถูกกระไฟฟ้าดูดเนื่องจากจับรั้วเหล็กบริเวณด้านข้างวัดจนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ถูกนำตัวส่งรพ.บางนา 1
จากการสอบถาม พระโสภณธรรมวาที เจ้าคณะเขตพระโขนง-บางนา เจ้าอาวาสวัดบางนานอก กล่าวว่า
ก่อนเกิดเหตุขณะกำลังจำวัดอยู่ มีลูกพระลูกวัดมาแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้
จึงประสานทางเจ้าหน้าที่มาทำการดับเพลิงเนื่องจากบริเวณวัดไม่มีหัวแดงสำหรับฉีดน้ำ ทั้งนี้พระอุโบสถแห่งนี้ไม่อนุญาตให้ญาติ โยม นำธูปเทียนเข้าไปจุดแต่อย่างใด อีกทั้งทางวัดมีโครงการที่จะสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ และอนุรักษ์โบสถืหลังนี้ไว้ เพราะเป็นโบราณสถานเก่าแก่ซึ่งมีอายุกว่า 107 ปีแล้ว ควรที่จะเก็บอนุรักษ์ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาและชื่นชม ไม่คาคิดว่าจะมาถูกเพลิงไหม้เสียก่อน ด้าน พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ เผยว่า พระอุโบสถหลังดังกล่าวมีอายุยาวนาน จึงมีบางส่วนที่ทำขึ้นจากไม้ แต่เนื่องจากผ่านเวลามายาวนานขาดการซ่อมแซมทะนุบำรุง จึงทำให้อุปกรณ์สายไฟฟ้า เกิดการชำรุดและเกิดไฟฟ้าลัดวงจร จนเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้ขึ้นในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)มาทำการตรวจสอบและสอบปากคำพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.