ผช.ผญบ.ยำลูกบ้าน รีดหัวคิว เงินช่วยเหลือน้ำท่วม

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก รพ.บางเลน จ.นครปฐม ว่า มีผู้ถูก ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสมารักษาตัว จึงเดินทางไปตรวจสอบ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ นายวสันต์ การะเวก อายุ 43 ปี อาชีพทำนา อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 4 ต.บางปลา อ.บางเลน นอนพักรักษาตัวที่ตึกผู้ป่วยรวม ในสภาพบอบช้ำ ทั้งตัว ใบหน้าเขียวคล้ำ ตาแดงก่ำ ปากฉีก ใบหูฉีก แพทย์ เย็บรวม 4 เข็ม แถมปวดต้นคอ และปวดศีรษะตลอดเวลา

สอบถามนายวสันต์กล่าวถึงเบื้องหลังถูกทำร้ายว่า ประมาณสามทุ่มของคืนวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะนอนหลับในบ้าน ได้มีนายแก้ว อินทร์พงษ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.บางปลา พาพวก 4-5 คน นั่งรถปิกอัพมาเรียกให้เปิดประตู ตอนแรกคิดว่านายแก้วมีเรื่องธุระด่วนเลยเปิดประตูต้อนรับ ทันใดนั้นถูกนายแก้ว กับพวกรุมซ้อมสะบักสะบอม ใบหน้าแตก หูฉีกขาด เลือดโซมร่าง ต้องทำเป็นแกล้งตาย นายแก้วกับพวกถึงยอมรามือ และฉกเอา โทรศัพท์มือถือหลบหนีไป ญาตินำส่งโรงพยาบาล และ นางแหวน การะเวก อายุ 75 ปี ผู้เป็นแม่ ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.คมกฤช สุขเจริญ สารวัตรเวร สภ.อ.บางเลน ไว้แล้ว

เหยื่อถูกซ้อมน่วมกล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุคาดว่า นายแก้วคงไม่พอใจเรื่องค่าหัวคิวเงินช่วยเหลือน้ำท่วม โดยก่อนหน้านี้นายแก้วบอกตนว่าจะทำเรื่องให้ได้รับเงินชดเชยเรื่องน้ำท่วมบ้านเสียหาย แต่ต้องแบ่งครึ่งกัน จึงตอบตกลงไป ปรากฏว่างวดแรกได้เงินช่วยเหลือ 11,000 บาท แต่ตนได้รับเงินแค่ 6,000 บาท ถูกหักหัวคิวไป 5,000 บาท รอบสองได้รับอีก 14,700 บาท นายแก้วจะขอค่าหัวคิวอีก 2,000 บาท อ้างว่าจะนำไปแบ่งให้เจ้าหน้าที่ 2 หน่วยงาน ตนเลยปฏิเสธเพราะเห็นว่าให้ไปมากแล้ว ทำให้นายแก้ว ไม่พอใจมีปากเสียงกัน ล่าสุดตนขอกู้เงินกองทุนหมู่บ้าน 45,000 บาท ปรากฏว่าถูกกลั่นแกล้งได้รับอนุมัติเพียง 25,000 บาท เท่านั้น

ด้านนางแหวน การะเวก ผู้เป็นแม่ เผยว่า วันเดียวกัน มีนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งเป็นคนกลางนัดตนให้ไปเจรจา โดยจะจ่ายค่าทำขวัญเป็นเงิน 4 หมื่นบาท และไม่ให้เอาเรื่อง ได้ปรึกษาญาติแล้ว ทุกคนลงความเห็นว่าพวกเรา ไม่มีปัญญาไปสู้รบปรบมือกับเขา และไม่รู้เรื่องกฎหมายด้วย จึงตกลงรับเงิน แต่พอถึงเวลานัดรับเงินกลับจ่ายให้แค่ 35,000 บาท จึงไม่รับเงินจำนวนดังกล่าว และกลัวภัยมืด ได้ปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของ รพ.บางเลน เพื่อหาทางย้ายผู้บาดเจ็บ กระทั่งทางโรงพยาบาลแจ้งให้สื่อมวลชนทราบ เรื่องในที่สุด

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนายแก้ว อินทร์พงษ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.บางปลา ผู้ถูกกล่าวหา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่บ้าน ปรากฏว่า นายแก้วไม่อยู่บ้าน พบเพียงนายพล อินทร์พงษ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.บางปลา ญาตินายแก้ว บ้านอยู่ใกล้กัน โดยนายพลเผยว่า สาเหตุที่ชกต่อยกันนั้นตนไม่ทราบ ถ้าเป็นตามที่นายวสันต์ระบุจริง คิดว่าน่าจะไม่มีใครร่วมไปทำร้ายด้วย ส่วนเรื่องเงิน กองทุนหมู่บ้านนั้น ตนในฐานะเป็นประธานกองทุน ขอชี้แจงว่า เหตุที่ให้นายวสันต์กู้เงินเพียง 2.5 หมื่นบาท เพราะผู้ค้ำประกันไม่ยอมค้ำให้ ทางคณะกรรมการจึงลงความเห็นว่าให้กู้ไปแค่นั้น

ด้านนายอมร เอมะปาณ นายอำเภอบางเลน ให้สัมภาษณ์ ว่า ยังไม่ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นการเรียกเก็บค่าหัวคิวจริง เท่ากับมีการทุจริต จะสั่งตั้งกรรมการสอบสวน ส่วนเรื่องชกต่อยกันนั้นต้องว่าไปตามกฎหมาย หากผิดจริงก็ต้องลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา ส่วน พ.ต.ท.คมกฤช สุขเจริญ สารวัตรเวร สภ.อ.บางเลน เจ้าของคดี กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหายให้การว่า 1 ในคนร้ายจำได้แม่นยำคือ นายแก้ว อินทร์พงษ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.บางปลา จึงส่งหมายเรียกให้มาพบ พนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งข้อหา และได้รับการติดต่อจาก นายแก้วว่า จะเดินทางมารับทราบข้อหาในวันที่ 19 มี.ค.นี้

สำหรับปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับชาวบ้านขณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ อ.บางเลน ต่อหน้าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดว่า เงินที่ทางการช่วยเหลือราษฎรนั้นต้องถึงมือผู้ประสบภัยทุกบาททุกสตางค์ ห้ามไม่ให้เรียกเก็บหัวคิว หากมีการเรียกเก็บจะเอาเรื่องกับข้าราชการทุกระดับ เช่นเดียวกับนายปรีชา บุตรศรี ผวจ. นครปฐม กล่าวในที่ประชุมเรื่องการช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่โรงแรมเวล เมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมาว่าจะเอาผิดกับข้าราชการที่ไปแสวงหาผลประโยชน์ หรือร่วมกับชาวบ้านทุจริต จะต้องเอาออกจากราชการและให้ติดคุกด้วย