ภูธร-บุกรวบ ดต.นครบาล ก่อคดีอุ้มทวงหนี้

"ร้องถูกอุ้มเรียกค่าไถ่"


เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 มี.ค. นางกุลวดี สุขสมศรี อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 414 หมู่ 1 ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ข้าราชการบำนาญ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ เข้าพบ พ.ต.อ.สถิตย์ ต้นสงวน รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบก.หน.ศสส.ภ.1 พ.ต.อ. วิสูตร ฉัตรไชยเดช ผกก.สภ.อ.ปากเกร็ด พ.ต.ต.ธรรศกร ก้อนทอง สว.สส.สภ.อ.ปากเกร็ด ที่ สภ.อ.ปากเกร็ด เพื่อให้ ข้อมูลเพิ่มเติม กรณีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา

นางกุลวดีได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.สัณห์เพ็ชร หนูทอง สารวัตรเวร สภ.อ.ปากเกร็ด ระบุว่านายจินดา สุขสมศรี อายุ 62 ปี สามี ซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญกรมชลประทาน ถูกคนร้ายลักพาตัวไป เหตุเกิดภายในร้าน ส.กุ้งเผา ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด โดยคนร้ายมี 4 คน บังคับชิงเอารถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ สภาพใหม่เอี่ยม ยังไม่มีป้ายทะเบียนหลบหนีไปด้วย ต่อมาคนร้ายได้นัดให้นำเงินสด 8 แสน บาท มาไถ่ตัวสามี โดยนัดพบที่ร้าน ส.กุ้งเผา วันที่ 15 มี.ค. เวลา 17.00 น.

ทาง พ.ต.อ.สถิตย์ ต้นสงวน รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี จึงวางแผนให้ พ.ต.ต.ธรรศกร ก้อนทอง สว.สส.สภ.อ.ปาก-เกร็ด ปลอมตัวเป็นคนขับรถพานางกุลวดีไปพบกลุ่มคน ร้ายตามที่นัดหมายเอาไว้พร้อมเงิน 8 แสนบาท ที่ทำเครื่องหมายลงประจำวันไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนกำลังที่เหลือจะไปดักซุ่มเพื่อจับกุมคนร้าย พอถึงเวลานัด ได้มีคนร้ายเป็นชาย 4 คน

"วางแผนจับกุมได้สำเร็จ"


ขับรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน ตข 9795 กรุงเทพมหานคร เข้ามาพบและสั่งให้ขับตามไปที่ปั๊ม น้ำมันคาลเท็กซ์ ถนนแจ้งวัฒนะ ก่อนถึงแยกหลักสี่ประ-มาณ 1 กม. พบนายจินดาถูกขังไว้ในรถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ เมื่อคนร้ายลงจากรถมารับมอบเงินค่าไถ่ กำลังตำรวจที่รายล้อมอยู่ก็ชาร์จเข้าไปจับกุมได้ทั้ง 4 คน และช่วยเหลือนายจินดาออกมาได้อย่างปลอดภัย

สำหรับกลุ่มคนร้ายทั้ง 4 คน ทราบชื่อ ด.ต. สมนึก บุญมาก อายุ 40 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.โคกคราม นายสมศักดิ์ ทันแจ้ง อายุ 41 ปี นายณรงค์ บำรุงศรี อายุ 45 ปี และนายทองคำ บำรุงศรี อายุ 42 ปี น้องชายนายณรงค์ จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน อ้างว่านายจินดาและนางกุลวดีติดหนี้ ที่ยืมไปจากพรรคพวกจำนวน 2 ล้านบาท แล้วไม่ยอมจ่ายคืน จึงนัดมาเจรจา ไม่ได้อุ้มมาเรียกค่าไถ่ตามที่ถูก กล่าวหา ด้านนายจินดา

ผู้เสียหายก็แสดงท่าทีพิรุธ โดย แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นหนี้กลุ่มผู้ต้องหาจริง แต่ไม่อยากเอาเรื่องกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด และยินดี คืนเงินที่ยืมมาจำนวน 2 ล้านบาทให้ อย่างไรก็ตาม ทาง เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของทั้งสองฝ่าย ตั้งข้อหา ด.ต.สมนึกกับพวกว่าร่วมกันกรรโชกทรัพย์และกักขังหน่วงเหนี่ยว แยกตัวกลุ่มผู้ต้องหาไปเค้นสอบเพิ่มเติมที่ ศสส.ภ.1 ส่วนนายจินดาแยกไปสอบที่ สภ.อ.ปากเกร็ด

"สรุปคดีเกี่ยวเนื่องผู้เสียหายหลอกล้มคดียาไอซ์ เชิดเงิน 11 ล้าน เลยโดนตามอุ้ม"


ด้าน พ.ต.อ.วิสูตร ฉัตรไชยเดช ผกก.สภ.อ.ปากเกร็ด เผยถึงเบื้องหลังคดีดังกล่าวว่า ทาง ศสส.ภ.1 ตรวจสอบพบก่อนหน้านี้ว่าเกี่ยวโยงกับคดีตำรวจ ปปส.จับกุมแก๊งค้ายาไอซ์รายใหญ่ได้ผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ 2 คน ของ กลางน้ำหนักกว่า 38 กก. มูลค่า 240 ล้านบาท กลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 30 เม.ย.49 ระหว่างถูกจับกุม ดำเนินคดี ได้มีกลุ่มคนเข้าไปติดต่อกับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ว่าสามารถวิ่งเต้นล้มคดีดังกล่าวได้

โดยแลกกับเงิน 11 ล้านบาท ผู้ต้องหาหลงเชื่อโอนเงินไปให้ แต่กลายเป็นถูกหลอก ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ถูกคุมตัวอยู่ ในเรือนจำบางขวาง จ.นนทบุรี สร้างความโกรธแค้นให้ ผู้ต้องหาเป็นอย่างมาก จึงประสานคนใกล้ชิดให้ช่วยจ้างคนไปตามทวงหนี้คืนจากกลุ่มที่หลอกเอาเงินไป จนกลายเป็นที่มาของคดีดังกล่าว ล่าสุดทาง ศสส.ภ.1 อยู่ระหว่างตามล่าตัวเพื่อนร่วมแก๊งที่เป็นคนประสานงานกับผู้ต้องหาในเรือนจำมาดำเนินคดีแล้ว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวสารที่มีคุณภาพ จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์