ศึกแย่งลูกเรือฆ่าโหดมัดมือเท้าโยนศพทิ้งทะล-จมเรือ

ศึกแย่งลูกเรือประมง วิทยุด่ากันกลางทะเล สุดท้ายขับเรือพุ่งชน ก่อนยิงไต๋ก๋งเรือดับอย่างโหดเหี้ยมแล้วช่วยกันจับมัดมือมัดเท้าโยนศพทิ้งทะเลพร้อมจมเรือ ลูกเรือพม่าเห็นท่าไม่ดีกระโดดพุ่งหลาวลงทะเลหนีเอาชีวิตรอดมาได้

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 15 มีนาคม 2550 นางอรจิรา ป้องกัน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160 / 1 ซอยรุ่งเรือง หมู่ 8 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร ได้พาลูกเรือประมงชาวพม่า จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายนายเว อายุ 22 ปี นายซู อายุ 32 ปี นายยาว อายุ 25 ปี นายเล็ก อายุ 22 ปี และนายเหรียง อายุ 23 ปี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต. บริสุทธิ์ เจริญรักษ์ สารวัตรเวร. สภ.อ.ละแม จ.ชุมพร

นางอรจิรา ให้การว่า นายอนันต์ หรือ เล็ก ป้องกัน อายุ 50 ปี ผู้เป็นพ่อ เป็นไต๋เรือและเป็นเจ้าของเรือประมงอวนลากเดี่ยว ชื่อ โชคเจริญชัย 2 ได้นำเรือประมงอวนลาก พร้อมลูกเรือประมงสัญชาติพม่าอีกจำนวน 5 คน ออกทะเลไปหาปลาตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยบอกกับทางบ้านว่าจะไปจับปลาบริเวณหมู่เกาะอ่างทอง เขตน่านน้ำ จ.สุราษฎร์ธานี

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มีนาคมเวลาประมาณ 22.00 น. นายอนันต์ ผู้เป็นพ่อได้โทรศัพท์ มาบอกว่า จะกลับเข้าฝั่งในวันที่ 14 มีนาคม เมื่อถึงกำหนดปรากฏว่าพ่อก็ยังไม่กลับเข้าฝั่งเพื่อเอาปลาไปขาย จนกระทั่ง เช้าวันที่ 15 มีนาคม มาทราบข่าวจากลูกเรือประมงชาวพม่า ทั้ง 5 คน ที่หนีเอาชีวิตรอดมาได้เนื่องจากอาศัยขึ้นเรือประมงลำอื่นกลับเข้าฝั่ง เล่าให้ ฟังว่า นายอนันต์ ผู้เป็นพ่อถูกไต๋เรือประมงอวนลาก ชื่อ เรือโชคอุดมโชค 1 ขับเรือประมงอวนลากวิ่งเข้าชนกลางลำด้านกาบซ้ายของเรือแล้วพาพวกรวม 3 คน มีอาวุธครบมือ เป็นปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ปืน สั้น 2 กระบอก บุกขึ้นไปบนเรือ

ต่อมา 1 ใน 3 คนร้ายได้กระหน่ำยิงนายอนันต์ ผู้เป็นพ่อจนเสียชีวิต แล้วช่วยกันจับพ่อมัดมือมัดเท้าโยนทิ้งลงทะเล ก่อนจะลงไปเปิดก๊อกน้ำใต้ท้องเรือ เพื่อให้น้ำทะเลทะลักเข้ามาทำให้เรือจม หวังฆ่าลูกเรือพม่าที่เหลือ อีก 5 คนให้ตายทั้งหมด ก่อนจะขึ้นมาจากท้องเรือแล้วใช้ปืนลูกซองจ่อยิงนายเว ที่นั่งอยู่หัวเรือกระสุนเจาะเข้าที่ไหล่ขวา จนตกลงไปในทะเล ลูกเรือประมงอีก 4 คนที่เหลือ กระโดดลงทะเลหนีเอาตัวรอด และต้องลอยคออยู่ในทะเลนานกว่า 2 ชั่วโมง

กระทั่งมีเรือประมงอวนลากลำหนึ่งผ่านมาพบและช่วยนำตัวขึ้นเรือ ก่อนจะช่วยกู้เรืออวนลากของพ่อที่ใกล้จะจมขึ้นมาได้สำเร็จและนำลูกเรือพม่าทั้ง 5 คน ประกอบด้วยนายเว นายซู นายยาว นายเล็ก และนายเหรี่ยง กลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย พร้อมทั้งลากเรือของพ่อกลับเข้าฝั่งมาด้วยส่วนศพของพ่อขณะนี้ยังหาไม่พบคาดว่าคงจมอยู่ก้นทะเลบริเวณหน้าอ่าวอำเภอละแม จ.ชุมพร ต่อติดต่อกับหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี

นายเล็ก ลูกเรือชาวพม่าที่รอดชีวิตและเห็นเหตุการณ์ เล่าถึงนาทีระทึกให้ตำรวจฟังว่า ขณะเกิดเหตุเวลานั้นประมาณตี 4 เรือของนายอนันต์กำลังลากอวนหาปลาเข้ามาในเขต จ.ชุมพร หน้าอ่าว อ.ละแม โดยที่ตนกำลังนั่งปลดทุกข์อยู่บริเวณท้ายเรือ ปรากฏว่าจู่ๆ ก็เห็นเรือ โชคอุดมโชค ซึ่งเป็นเรือของปากน้ำชุมพร ที่รู้จักกันวิ่งตรงเข้ามาหาและตรงเข้าชนที่กลางลำเรือทำให้เรือเอียงวูบ

ทันใดนั้นเองได้มีชายฉกรรจ์ 3 คน ถืออาวุธปืนลูกซอง 1 กระบอก ปืนสั้น 2 กระบอก โดยคนที่ถือปืนยาวได้ยิงไต๋เรือซึ่งกำลังขับเรืออยู่ในเก๋ง 2 นัด ก่อนจะจับมัดมือมัดเท้าโยนลงทะเล และหันมายิง นายเว จนตกทะเลไปอีกคน

"พวกเราที่เหลือจึงกระโดดลงทะเลเพื่อหนีเอาตัวรอดแต่ก็ยังถูกกลุ่มคนร้ายตามยิงไล่หลังลงไปในทะเลอีกหลายนัด ก่อนที่เรือประมงอวนลากลำดังกล่าว จะขับหลบหนีมุ่งหน้าไปยังเกาะเต่า"นายเล็ก กล่าว

ลูกเรือชาวพม่า เปิดเผยอีกว่า สาเหตุน่าจะมาจากจากเมื่อตอนเย็นของวันที่ 14 มีนาคม ขณะที่กำลังลากปลาอยู่ที่บริเวณหมู่เกาะอ่างทอง ตนได้ยินเสียงนายอนันต์ไต๋เรือ คุยวิทยุมดดำอยู่กับไต๋ก๋งเรือประมง โชคอุดมโชค โดยนายอนันต์ผู้ตายได้ต่อว่าไต๋ก๋งเรือลำนั้นว่าแย่งลูกน้องชาวพม่าไป 1 คนทั้งๆ ที่ นายอนันต์ จ่ายเงินค่าแรงล่วงหน้าไปให้แล้ว จนในที่สุดก็ถึงขั้นทะเลาะกัน มีการท้าทายกันและด่าแม่กัน จนในที่สุดก็มาเกิดเรื่อง ขณะที่นายอนันต์ กำลังขับเรือลากอวนมุ่งหน้ากลับมาชุมพร ดังกล่าว

พ.ต.ต.บริสุทธิ์ เจริญรักษ์ กล่าวว่า เมื่อได้รับการยืนยันเช่นนี้และพยานทุกคนจำหน้าคนร้ายได้พร้อมจะชี้ตัวก็จะได้ขออนุมัติหมายจับ และติดตามจับกุมไต๋เรือโชคอุดมโชค พร้อมพวกที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไปซึ่งขณะนี้รู้ตัวแล้วว่ากลุ่มนี้มีใครบ้าง

ด้านนางอรจิรา บุตรสาว กล่าวว่า ในวันนี้จะได้ประสานไปที่ตำรวจน้ำชุมพร เพื่อขอให้ช่วยออกไปหาศพของพ่อกลางทะเล และจะได้ประสานกับเรือประมงที่รู้จักกัน ให้ช่วยกันหาศพของพ่อด้วยอีกแรงหนึ่ง ส่วนสาเหตุการตายและคนฆ่าพ่อนั้น ตนเชื้อคำให้การของนายเล็ก ว่า ไต๋เรือโชคอุดมโชคและพวกน่าจะเป็นคนลงมืออย่างแน่นอน เพราะนอกนั้นพ่อไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน