แจ้งจับเสี่ยบุรีรัมย์ขืนใจสาวตาบอด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 มี.ค. ร.ต.ต.อรรถภร พุ่มห้วยรอบ ร้อยเวร สภ.อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุจาก นายสุข และนางเดา อยู่ อ.ห้วยราช ทั้งคู่เป็นสามีภรรยา นำ น.ส.ใจ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ลูกสาว ซึ่งพิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง ว่าถูกเสี่ยอายุ 40 ปี อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศบาล ปัจจุบันทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ล่อลวงไปข่มขืนกระทำชำเราในโรงแรมแห่งหนึ่ง

จากการสอบสวน น.ส.ใจให้การว่า เมื่อเย็นวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา ซ้อนท้ายรถจักรยานน้องชาย โดยมีเด็กข้างบ้านอายุ 9 ขวบ ซ้อนไปด้วย ออกจากบ้านจะไปเยี่ยมน้องชายอีกคนที่ร.พ.ห้วยราช ระหว่างทางพบเสี่ยขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ วีโก้ มาจอดและถามว่าให้ไปส่งไหม เห็นว่าเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือจึงตอบตกลงยอมขึ้นรถ พอถึงร.พ.ห้วยราช เสี่ยบอกให้เด็กชายที่นั่งมาด้วยลงไปรอที่ร.พ. และอ้างว่าจะพาไปธุระในเมือง จากนั้นพาขับรถไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่ไม่ทราบว่าเป็นร้านอะไร

น.ส.ใจให้การต่อว่า จากนั้นเสี่ยกลับเลี้ยวรถเข้าโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมือง อ้างว่าจะสั่งอาหารมากินในห้อง ต่อมาสั่งอาหาร และเบียร์มาดื่มกินในห้อง พร้อมทั้งบังคับให้เปิดเบียร์แล้วดื่มไป 3 แก้ว จนมีอาการมึน จากนั้นเสี่ยลวนลาม โดยพูดจาหว่านล้อมสารพัดว่าแอบหลงรักมานานแล้ว

หากมีอะไรเกิดขึ้นพร้อมจะรับผิดชอบดูแลทุกอย่าง ก่อนจะขืนใจจนสำเร็จความใคร่ รุ่งเช้าวันที่ 19 ก.พ. ขับรถไปส่งที่บ้านพร้อมให้เงิน 200 บาท หลังจากนั้นเสี่ยไม่เคยติดต่อ หรือมาเหลียวแลอีกเลย จนเวลาผ่านไปกว่า 10 วัน จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผู้ปกครองทราบ และพาไปตรวจร่างกายที่ร.พ. ก่อนจะเข้าแจ้งความ

ด้านพ่อและแม่ให้การว่า หลังเกิดเรื่อง เสี่ยเข้ามาติดต่อขอจ่ายเป็นเงิน 50,000 บาท เพื่อล้างความผิดที่กระทำขึ้น แต่ไม่ยอม เพราะทำให้ลูกสาวตนซึ่งพิการที่มีปมด้อยอยู่แล้ว ต้องด่างพร้อยลงไปอีก ยืนยันจะเอาเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

ส่วนพ.ต.ท.เรืองสิทธิ์ มากศรจิรโชติ สวป.สภ.อ.ห้วยราช กล่าวว่า จะออกหมายเรียกเสี่ยมาสอบสวน หากพบว่ากระทำผิดตามที่ผู้เสียหายแจ้งความจริง จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที นอกจากนี้ ยังได้ประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.บุรีรัมย์ เพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยเบื้องต้นจะนำเด็กผู้เสียหายไปที่ศูนย์ศึกษาพิเศษบุรีรัมย์ เพื่อประเมินสภาพความพิการของเด็ก และจะส่งต่อไปโรงเรียนพิเศษเกี่ยวกับความพิการทางด้านสายตาที่ จ.ร้อยเอ็ด หรือ ขอนแก่น ให้ฝึกทักษะด้านอาชีพ สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และลดความเสี่ยงต่อการถูกกระทำซ้ำอีก