ดีเอสไอสั่งยึดรถหรูคันแรก ตรวจสภาพพบเป็นรถนำเข้าทั้งคัน เลขตัวถัง เลขเครื่อง เลขเกียร์ เป็นเลขเดียวกัน ทำบันทึกยึดทันทีแต่ให้ผู้ครอบครองนำกลับไปรักษาไว้ ก่อนรอกระบวนการซื้อคืน
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่อาคารจอดรถ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ถนนแจ้งวัฒนะ
กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้นัดผู้ครอบครองรถหรูราคาเกิน 4 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 548 คัน ที่ยื่นเอกสารแสดงความสมัครใจนำรถเข้าตรวจสอบสภาพ โดยในวันนี้มีรถเบนซ์ 5 คัน นัดตรวจสอบกายภาพ
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวภายหลังสังเกตการณ์ตรวจสอบสภาพรถร่วมกับตัวแทนอีก 6 หน่วยงาน
ประกอบด้วย กรมการขนส่งทางบก กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร กรมศุลกากร สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) และ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมด้วยฝ่ายเทคนิคตัวแทนบริษัทรถยนต์ ว่า จากการตรวจสอบรถเบนซ์คันแรก รุ่น อี 240 ทะเบียน 819 นครสวรรค์ ผลการตรวจสอบทางกายภาพที่มีการออนไลน์ข้อมูลไปยังบริษัทแม่ในต่างประเทศ พบว่าตำแหน่งของเลขสำคัญหลายตำแหน่งชี้ชัดว่าเป็นรถที่นำเข้ามาจากโรงงานทั้งคัน เนื่องจากมีเลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ และเลขเกียร์ แสดงว่าเป็นรถคันเดียวกันตั้งแต่ออกจากโรงงาน
ดังนั้น รถคันดังกล่าวจึงถือเป็นรถต้องสงสัยนำเข้าหลีกเลี่ยงภาษีตามพิกัดศุลกากร
โดยขั้นตอนหลังจากนี้ดีเอสไอจะทำบันทึกการตรวจยึดและบันทึกการมอบให้ผู้ครอบครองรถนำรถไปเก็บรักษาก่อน จากนั้นจะรอผลการตรวจสอบเชิงลึกจากเอกสารของกรมศุลกากร
นายธาริต ยังกล่าวถึงขั้นตอนการตรวจสอบว่า จะเน้นการพิสูจน์เลขตัวถัง เครื่องยนต์ และชุดเกียร์ว่าทั้ง 3 ส่วนตรงกันหรือไม่
หากตรงกันกับรถที่ออกจากโรงงาน แสดงว่ารถคันดังกล่าวมีการแยกชิ้นส่วน และนำเข้ามาจดประกอบในประเทศ โดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี แต่ถ้าทั้ง 3 ส่วนไม่ตรงกัน แสดงว่าเป็นรถจดประกอบที่ถูกต้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะออกหนังสือยืนยันว่าเป็นรถจดประกอบถูกต้องตามกฎหมายให้ผู้ครอบครองรถ อย่างไรก็ตาม จะถือว่าผู้ครอบครองรถเป็นผู้บริสุทธิ์และจะให้โอกาสในการขอซื้อคืนต่อไป และขอให้ผู้ครอบครองรถยนต์จดประกอบที่ดีเอสไอประกาศรายชื่อทั้งหมดนำรถเข้ามาตรวจสอบด้วยความสมัครใจต่อไป.