วันที่ 24 มิ.ย. ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค5
พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ.5 และ พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาแก๊งลักรถจักรยานยนต์ เป็นสองสามีภรรยา ผู้ต้องหาประกอบด้วย นายเกียรติศักดิ์ หรือเอ ประเสริฐ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/6 หมู่3 ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ และนาวสาววัชรี หรืออ้อม ประเสริฐ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/1 หมู่3 ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ถูกดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน"
พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นเคเอสอาร์จำนวน 9 คัน มีดคัตเตอร์ 1 เล่ม เสื้อผ้าชุดที่สวมใส่ก่อเหตุอีก 12 ชิ้น
และรถยนต์เก๋งฮอนด้า แจ๊ซ สีขาวหมายเขทะเบียน ขท 7718 ระหว่างนำตัวแถลงข่าวมีผู้เสียหายมากกว่า 10 คนเดินทางมาดูของกลาง ขณะที่เจ้าหน้าที่เผลอมีผู้เสียหายชายรายหนึ่ง เดินตรงเข้าไปใช้กำปั้นชกเข้าที่ใบหน้าของนายเอ ขณะที่ผู้ต้องหากำลังสาธิตการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ผู้ต้องเซไปซบโดยมี พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภาค 5 รับไว้ ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในระแวกดังกล่าวจึงรีบห้ามปรามและกันตัวออกไป โดยผุ้เสียหาย อีกจำนวนหนึ่งก็ตระโกนด่า คนร้ายทั้งสองต่าง ๆ นานา โดยไม่พอใจที่ผู้ต้องหาสารภาพว่าลักรถจักรยานยนต์ไปขายต่อในราคา 1 หมื่นบาท ทั้งที่ผู้เสียหายชาวบ้านซื้อรถคันนี้มาให้ลูกหลาน บางรายก็ยังผ่อนอยู่ ในราคา 6-7 หมื่นบาท เป็นเหตุให้ชาวบ้านผู้เสียหายไม่พอใจและตรงเข้าไปชกหน้า ดังกล่าว
พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ.5 เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
มีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความยังสถานีตำรวจเขตเมืองเชียงใหม่หลายแห่ง ว่ารถจักรยานยนต์เคเอสอาร์ที่จอดไว้ตามหอพักและที่สาธารณะต่างๆถูกโจรกรรมไปแบบไร้ร่องรอยทั้งที่ล็อคกุญแจคอรถไว้ หลังชุดสืบสวนออกติดตามแกะรอยจึงพบว่าผู้ก่อเหตุลักจักรยานยนต์ดังกล่าวคือผู้ต้องหาทั้งสองราย โดยภาพจากกล้องวงจรปิดของหอพักบางแห่งสามารถบันทึกภาพคนร้าย 2 คนชายหญิงแต่งกายชุดฮิปฮอปไว้ได้ขณะลงมือก่อเหตุ
พล.ต.ต.ประจวบ กล่าวว่า สามีภรรยาคู่นี้จะแต่งตัวเป็นพวกฮิปฮอป จะพากันขับรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ สีขาวไม่ติดแผ่นหมายเลขทะเบียนมายังที่จอดรถ
โดยมีนางสาวอ้อม ภรรยาเป็นคนขับ จากนั้นนายเอ จะเดินตรงไปยังรถเคเอสอาร์ที่จอดไว้ จากนั้นใช้มือกระชากแฮนด์รถเพื่อคลายล็อคคอ แล้วใช้มีดคัตเตอร์ตัดสายไฟสวิทช์กุญแจเพื่อต่อสายตรง จากนั้นได้ขับขี่รถที่โจรกรรมออกไปจากสถานที่ก่อนจะนำไปส่งขายต่อทำแบบนี้หลายครั้ง แต่ก็ไม่พ้นมือเจ้าหน้าที่ซึ่งติดตามสืบสวนจนกระทั่งมาจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว
พล.ต.ต.ประจวบ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนทราบว่า
ผู้ต้องหาทั้งสองรายไม่เรียนหนังสือแต่จะหาเงินด้วยการตระเวณไปขโมยรถจักรยานยนต์เป็นอาชีพหลัก ฝ่ายหญิงเป็นแม่ลูกอ่อนมีลูกอายุ 7-8 เดือน โดยนายเอนั้นอดีตเคยเรียนอยู่ที่วิทยาลัยสายอาชีพแห่งหนึ่ง มีวิชาความรู้เกี่ยวกับด้านช่างมาพอสมควรจึงโจรกรรมรถโดยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที สอบปากคำทราบว่าเคยมีประวัติถูกดำเนินคดีลักทรัพย์โน้ตบุ๊คของญาติไปขายจนถูกนำตัวส่งสถานพินิจในวัย 18 ปี ก่อนจะพ้นโทษออกมาตระเวณก่อเหตุลักรถมาแล้ว 9 ครั้งและมาถูกจับกุมตัวดังกล่าว