เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 14 มิ.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ น.ส.ศิริพร ดารักษ์ ตัวแทนบริษัท บอร์น ทู รัน จำกัด
พร้อมด้วยนายพิษณุ พานิชสุข ทนายความเดินทางเข้าพบพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจภายหลังดีเอสไอเปิดเผยว่าบริษัทมีชื่อครอบครองป้ายทะเบียนรถเบนท์ลี ณ 6006 ที่เป็น 1 ในป้ายทะเบียนรถที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ 6 คัน ที่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
โดยนายพิษณุ กล่าวว่าหลังจากทราบข่าวว่าบริษัทเข้าไปเกี่ยวข้อง
ก็เกิดความไม่สบายใจ จึงต้องการเข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจพร้อมแสดงหลักฐานว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบริษัทไม่เคยใช้ป้ายทะเบียนรถดังกล่าว ซึ่งหวังว่าการเข้าให้ข้อเท็จจริงของบริษัทจะเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนของดีเอสไอให้ทราบข้อเท็จจริงเร็วขึ้น พร้อมชี้แจงว่าบริษัทได้ว่าจ้างนายสุดบุรี (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเปิดบริษัทรับขอป้ายแดงให้รถเป็นผู้ขอป้ายทะเบียนรถให้ 50 ป้าย เมื่อปี 2552 ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีเลขทะเบียนดังกล่าวรวมอยู่ด้วยและไม่ทราบว่าจะมีการซื้อเกินจากที่ได้รับมอบหมายหรือไม่
นายพิษณุ ยืนยันอีกว่าแม้จะปรากฏชื่อในระบบของกรมการขนส่งว่าบริษัทเป็นผู้ครอบครองป้ายทะเบียนดังกล่าวแต่บริษัทก็มีหลักฐาน บันทึกข้อมูลป้ายทะเบียนและสมุดคู่มือเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ซึ่งต้องมีการพิสูจน์ โดยเชื่อว่าหากได้รับการพิสูจน์แล้วจะเกิดความชัดเจนกับทั้ง 2 ฝ่าย
ด้านพ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ดีเอสไอจะสอบปากคำตัวแทนบริษัทซึ่งเบื้องต้นยืนยันว่าบริษัทไม่มีป้ายทะเบียนดังกล่าว
แต่เคยมอบหมายให้บุคคลอื่นไปขอป้ายทะเบียนป้ายแดง 50 ป้าย ซึ่งไม่มีเลขทะเบียนนี้อยู่ จึงต้องการเข้าแสดงเจตนาว่าบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้จะเรียกนายสุดบุรี มาสอบปากคำและจะส่งป้ายทะเบียนให้กรมการขนส่งทางบกตรวจสอบว่าเป็นป้ายทะเบียนจริงหรือไม่ เพื่อยืนยันข้อมูลที่ชัดเจน เนื่องจากการออกป้ายทะเบียนจะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วย
พ.ต.ท.กรวัชร์ ยังเปิดเผยว่า ในวันนี้กรมการขนส่งทางบกได้ส่งข้อมูลผู้ครอบครองรถจดประกอบที่เข้าข่ายเลี่ยงภาษีซึ่งเป็นรถหรูราคาตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไปยี่ห้อ บีเอ็มดับบลิวอีก 44 คัน เพิ่มเติมจาก 488 คันที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ โดยมีรายชื่ออผู้ครอบครองคนดังหลายท่าน