รวบ จนท.เรือนจํา ฉุดขืนใจ ฆ่าสาวท้อง 3 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (7 มี.ค.) ร.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ร้อยเวร สภ.อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ได้รับแจ้งจากนายหา สร้อยจิต เจ้าของไร่อ้อยหมู่ 11 ต.หนองโพ ว่าขณะจะเข้าไปสูบน้ำในสระกลางไร่อ้อยของตัวเอง พบศพหญิงสาวถูกฆ่าลอยอืดอยู่ในสระน้ำ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.เทศ ต่วนชะเอม รอง ผกก.สส. แพทย์เวร รพ.ตาคลี นำกำลังและเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลตาคลีรุดไปสอบสวน

ที่เกิดเหตุเป็นสระน้ำกว้าง 20 เมตร ยาว 100 เมตร พบศพเหยื่อโหดเป็นหญิงอายุราว 20 ปีเศษ สวมเสื้อสายเดี่ยวสีแดงลายจุดดำ ร่างกายท่อนล่างเปลือยเปล่า นอนหงายลอยปริ่มน้ำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าต้นแขนซ้ายพรุนกว่า 20 รู ศีรษะถูกตีด้วยของแข็งแตกฉกรรจ์ ใบหน้าฟกช้ำบวมปูด คอหัก ที่แขนขวาสวมกำไลสเตนเลส 2 วง และสายสิญจน์ถัก 1 เส้น คาดว่าตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ชั่วโมง

บนพื้นดินขอบสระน้ำห่างจุดพบศพราว 20 เมตร พบเหรียญ 10 บาท และเหรียญ 5 บาท ตกอยู่ 2 เหรียญ และมีต่างหูของผู้ตาย 1 ข้าง หลอดยาดม 1 หลอด กับท่อนไม้ยาว 1 เมตร หักเป็น 2 ท่อนมีคราบเลือดติดอยู่ คาดว่าเป็นอาวุธสื่อมรณะตกอยู่เกลื่อน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าเหยื่อโหดรายนี้คือนางเนาวรัตน์ หรือดาว คำภา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/3 หมู่ 10 บ้านดอนสำราญ ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ซึ่งถูกคนร้ายดักฉุดตัวมาจากท้องที่ สภ.ต.หางน้ำสาคร อ.มโนรมย์ เมื่อกลางดึกวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา จึงประสานไปยัง สภ.ต.หางน้ำสาคร แจ้งญาติมาดูศพ

ต่อมาเวลา 13.00 น. นายนพรัตน์ ทัพทวี อายุ 26 ปี สามีของนางเนาวรัตน์ กับญาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ. อุดมชัย อมาตยกุล รอง ผบก.ภ.จ.ชัยนาท พ.ต.ท.กนกศักดิ์ สิงห์ทอง ผกก.หน.สภ.ต.หางน้ำสาคร พ.ต.ท.ผาภูมิ ผอบทอง สวป. และ พ.ต.ท.ศักดิ์สฤษฎ์ เรือนภู่ สว.สส.บก.ภ. จ.ชัยนาท เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ เมื่อนายนพรัตน์เห็นศพถึงกับร่ำไห้ ยืนยันว่าเป็นนางเนาวรัตน์ เมียที่ถูกคนร้ายฉุดตัวไป ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ราว 3 เดือน พร้อมกับด่าทอคนร้ายอย่างโกรธแค้นอย่างรุนแรงว่ายิงเมียตนแล้วยังข่มขืนและฆ่าอย่างทารุณ เนื่องจากตอนออกจากบ้านนางเนาวรัตน์ สวมกางเกงยีน และใส่กางเกงใน แต่กางเกงหายไป

สำหรับเหตุการณ์ที่นางเนาวรัตน์ถูกฉุดคร่าก่อนจะกลายเป็นศพ สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 00.20 น. ขณะที่นางสอิ้ง เพ็ชรอินทร์ อายุ 77 ปี แม่ของนางเนาวรัตน์ ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับนางเนาวรัตน์จากร้านอาหารบ้านไร่คาราโอเกะ ที่นางเนาวรัตน์ทำงานเป็นแคชเชียร์มุ่งหน้ากลับบ้าน พอมาถึงถนนหัวหว้า บ้านดอนสำราญ หมู่ 4 ต.ไร่พัฒนา อ.มโนรมย์ คนร้าย 5 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน เป็นพาหนะ ดักซุ่มอยู่ข้างทางใช้ปืนลูกซองยิงใส่ 1 นัด ถูกนางสอิ้งที่มือซ้ายและกระสุนถากใบหน้าบาดเจ็บทำให้รถล้ม นางสอิ้งแกล้งทำเป็นตาย ขณะที่นางเนาวรัตน์วิ่งหนีลงข้างทาง แต่ถูกคนร้ายใช้ปืนยิงใส่ถูกแขนซ้ายบาดเจ็บ แล้วบังคับให้ซ้อนรถจักรยานยนต์ พาหนีไป ส่วนนางสอิ้งพลเมืองดีผ่านไปเจอช่วยเหลือนำส่ง รพ.มโนรมย์

หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.บุญญรัตน์ อ่ำบุญ สารวัตรเวร สภ.ต.หางน้ำสาคร พร้อมด้วย พ.ต.ท.กนกศักดิ์ สิงห์ทอง รอง ผกก.หน.สภ.ต.หางน้ำสาคร รุดไปสอบสวนพร้อมแจ้งวิทยุสกัดจับแต่ไม่พบวี่แววคนร้าย กระทั่งมีคนไปพบศพนางเนาวรัตน์ ถูกฆ่าโหดหมกสระน้ำห่างจุดที่ถูกฉุดราว 30 กม. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพไปสถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายและตรวจสอบว่าผู้ตายถูกคนร้ายข่มขืนด้วยหรือไม่

ขณะเดียวกัน ภายหลังสอบสวนพยานแวดล้อม บุคคลใกล้ชิดผู้ตายจนได้เบาะแสผู้ต้องสงสัยแล้ว พ.ต.ท. บุญญรัตน์ อ่ำบุญ สารวัตรเวร สภ.ต.หางน้ำสาคร ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับนายสัจจา เสนีวงศ์ ณ อยุธยา เจ้าหน้าที่อบรมและฝึกอาชีพ 5 เรือนจำจังหวัดชัยนาท คนร้ายที่ดักฉุดนางเนาวรัตน์ พร้อมประสานนายนภินทร์ จอกลอย ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดชัยนาท พาเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ ผบก.ภ.จ.ชัยนาท ก่อนส่งมอบให้ พ.ต.ท.บุญญรัตน์ รับไปดำเนินคดี เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ ก่อน สอบสวนนายสัจจาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสัจจา ไปค้นบ้านพักเลขที่ 82/1 ถนนชัยณรงค์ ต.ในเมือง พบผ้าคลุมที่นอนสีฟ้าขาวมีคราบเลือดติดอยู่ และพบกางเกงยีนเปื้อนเลือดที่ขากางเกงข้างขวา แช่อยู่ในถังน้ำใต้ถุนบ้าน จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเดินทางไปตรวจค้นโต๊ะทำงานของนายสัจจา ในเรือนจำจังหวัดชัยนาท ยึดปืน 9 มม. 1 กระบอก พร้อมกระสุน 6 นัด ไว้ตรวจสอบนำกลับมาควบคุมที่โรงพักเพื่อสอบสวนต่อไป

ทางด้าน พ.ต.อ.อุดมชัย อมาตยกุล รอง ผบก.ภ.จ. ชัยนาท เปิดเผยว่า จากการสอบถามพนักงานในร้านคาราโอเกะที่นางเนาวรัตน์ทำงานอยู่ ทราบว่านางเนาวรัตน์ เป็นคนหน้าตาดีมีผู้ชายมาติดพันหลายคน รวมทั้งผู้ต้องหาด้วย เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงจะมาจากเรื่องใดคงต้องขอเวลาสอบสวนอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ยอมให้ปากคำใดๆ ส่วนคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุอีก 4 คน จะได้เร่งสอบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป