ประมงสตูลสูดก๊าซปลาเน่าดับ 5 ศพ

ตังเกสตูลลงทำความสะอาดห้องเก็บปลาใต้ท้องเรือ สูดก๊าซปลาเน่าน้ำลายฟูมปากดับสยอง 5 ศพ ผู้เชี่ยวชาญชี้เกิดจากเศษเนื้อปลาเน่าจนเกิดก๊าซพิษ

พ.ต.ต.จักรพันธ์ คงแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองสตูล รับแจ้งจากนายสายชล โชคกันตะ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141/1 ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล ไต้ก๋งเรือประมงพีเอสเอฟ 1858 เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 6 มีนาคมว่า ขณะออกเรือหาปลามีลูกเรือเสียชีวิต 5 คน

ได้แก่ นายชัชรินทร์ ชูศรี อายุ 29 ปี นายชัยยา รักเสมอวงศ์ อายุ 35 ปี นายเก่ง ช้างเยาว์ อายุ 31 ปี นายปัญญา และนายมาย ทั้งหมดมีน้ำลายฟูมปาก แพทย์ระบุว่าเกิดจากการขาดอากาศหายใจ และล้มลงจมน้ำในห้องเก็บปลาใต้ท้องเรือ นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 2 คน คือ นายกองไทย สิงห์สาย อายุ 32 ปี และนายซันไล สิงห์สาย อายุ 41 ปี รักษาตัวที่ รพ.สตูล เนื่องจากมีอาการแน่นหน้าอก

พ.ต.ต.จักรพันธ์ กล่าวว่า เรือประมงพีเอสเอฟเป็นเรืออวนดำมีลูกเรือ 25 คน ออกหาปลาตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม ระหว่างหาปลาอยู่ที่เกาะตะรุเตากับเกาะกลาง ลูกเรือส่วนหนึ่งได้ลงอวน ส่วนอีก 5 คน ลงไปทำความสะอาดห้องเก็บปลาใต้ท้องเรือ จึงสูดก๊าซปลาเน่าที่ตกค้างอยู่จนหมดสติ ล้มลงจมน้ำในห้องเก็บปลาที่สูงประมาณหัวเข่า ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 คน ตามลงไปดูเพื่อนก่อนจะหนีขึ้นมาได้ทัน

ด้าน นายทองแทน เลิศลัทธพร ที่ปรึกษาสมาคมประมง จ.สมุทรสาคร กล่าวว่า ก๊าซปลาเน่าเกิดจากก๊าซพิษ 2 ตัว คือ แอมโมเนียและไฮโดรเจนซัลไฟด์ เกิดจากการย่อยสลายโปรตีนของเนื้อปลา มีกลิ่นเหม็นเน่าจนทำให้ระบบหายใจล้มเหลว ปกติจะพบก๊าซชนิดนี้ในท้องเรือประมงทุกลำ เกิดจากการดองปลา ชะล้างเลือด หรือเศษเนื้อปลา ก่อนเข้าสู่ระบบน้ำเสียของเรือ หากเรือที่มีระบบจัดการไม่ดี มีเศษเนื้อปลาเน่าตกค้างหรือความเย็นไม่พอ ปลาเน่าเร็ว ก็จะเกิดก๊าซตกค้าง

ศ.น.พ.สมิง เก่าเจริญ หัวหน้าศูนย์พิษวิทยา คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจากก๊าซปลาเน่าอยู่เรื่อยๆ ช่วงแรกสูดดมจะมีกลิ่นเหม็น แต่ระยะหนึ่งก็จะชิน เพราะการรับกลิ่นเสียไป ในที่สุดก็จะวิงเวียนศีรษะ และเสียชีวิตในเวลาเพียงไม่กี่นาที