ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวรองผกก.สส.ภ.1

ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวรองผกก.สส.ภ.1


ไฟไหม้รถรอง ผกก.สส.ภ.1 ขณะรับลูกชายกลับบ้าน หนีตายระทึก-รอดหวุดหวิด เจ้าตัวเผยรถเพิ่งซ่อมเสร็จจากอู่ย่านสามโคก ขับมาดีๆ เครื่องดับ แล้วมีกลิ่นน้ำมันโชยออกมา พอสตาร์ทเครื่องอีกครั้งได้ก็เกิดลุกไหม้ที่ห้องเครื่องอย่างรุนแรง เดชะบุญจูงลูกหนีออกมาทัน

เมื่อเวลา 18.45 น.วันนี้ (31 มี.ค.) ร.ต.ต.อดิศักดิ์ คชสิทธิ์ ร้อยเวร สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานบางขันฝั่งถนนบางเชียงราก-บางขัน หน้าหอพักชาโตว์ หมู่ 7 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวงจึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลเมืองคลองหลวงแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ช่วงบริเวณใต้ทางต่างระดับบางขันซึ่งเป็นจุดกลับรถ พบรถยนต์แบบแวนยี่ห้อมาสด้ารุ่น ที-บิวส์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ญช 624 กทม.จอดอยู่กลางถนน มีเปลวเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณห้องเครื่องอย่างรุนแรง พร้อมกลุ่มควันสีดำพวงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นจำนวนมาก และมีเสียงระเบิดเกิดขึ้นเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องเร่งฉีดน้ำเพื่อดับเพลิงที่อยู่ระหว่างลุกไหม้อย่างรุนแรง

โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่เพลิงก็เผาผลาญรถยนต์เสียหายไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของตัวรถ หลังเพลิงสงบจึงพบ พ.ต.ท. พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ รองผกก.สส.ภ.1  เจ้าของรถ พร้อมด้วยนายณัฐวัฒน์ ศาสนะสุพินธ์ บุตรชายวัย 15 ปี และ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) ลูกชายวัย 10 ปี ยืนอยู่ริมทาง


ทางด้าน พ.ต.ท.พัทฐกร  เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุได้ขับรถยนต์ส่วนตัวที่เพิ่งซ่อมแซมระบบเครื่องยนต์จากอู่แห่งหนึ่งย่าน อ.สามโคก ในราคากว่า 50,000บาท โดยตนขับรถออกจากบ้านมาพร้อมด้วยลูกชายทั้งสองคน เพื่อเดินทางกลับบ้านพัก จู่ๆ รถก็เกิดอาการขัดข้องก่อนที่เครื่องยนต์จะดับ แล้วมีกลิ่นน้ำมันเข้ามาในห้องโดยสาร หลังจากนั้นได้สตาร์ทเครื่องทันใดนั้นได้เกิดเพลิงลุกขึ้นที่ห้องเครื่องอย่างรวดเร็ว จึงเปิดประตูแล้วพาลูกชายทั้งสองวิ่งหนีออกจากรถเพื่อไปหลบในที่ที่ปลอดภัย โดยรอดจากการถูกไฟคลอกอย่างหวุดหวิด แล้วประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประสานหน่วยงานดับเพลิง เพื่อมาสกัดเพลิงที่อยู่ระหว่างโหมลุกไหม้


ร.ต.ต.อดิศักดิ์ ร้อยเวรฯ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้นำรถที่เกิดเหตุเพลิงไว้ลากไปเก็บไว้ที่สถานที่เก็บของกลาง เพื่อเปิดการจราจรให้รถยนต์สามารถสัญจรผ่านไปได้ และได้ประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานเขต 1 เพื่อเข้าตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์