ญาติหมอเซง โดนสื่อรุมประณาม หมอประกิต !!

หลังจากศาลมีคำสั่งให้ส่งตัว นพ.ประกิตเผ่าทมทิตชงค์

อาจารย์และผู้บริหารสถาบันกวดวิชาชื่อดัง แอพพลายด์ฟิสิกส์ จากโรงพยาบาลศรีธัญญาไปยังสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อตรวจสอบในเรื่องของการบำบัดรักษาอาการป่วยทางจิต ให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าในร่างกายของ นพ.ประกิตเผ่ามีสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทหรือไม่ ก่อนนัดพร้อมทุกฝ่ายไต่สวนในวันที่ 9 มี.ค.

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (3 มี.ค.) ที่บ้านเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ในซอยเรวดี ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี

นพ.ประกิตพันธ์ ทมทิตชงค์ รศ.เพลินจิต ทมทิตชงค์ และนางอลิสา ทมทิตชงค์ พี่ชาย มารดาและภรรยา นพ.ประกิตเผ่า ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

โดย นพ.ประกิตพันธ์กล่าวว่า

ปัญหาที่เกิดขึ้น ตอนนี้สังคมได้ประณามครอบครัวตนไปในทางเสียหาย ถึงขนาดบางคนพิมพ์ข้อความเข้าไปในเว็บไซต์ระบุว่า ครอบครัวตนแย่งสมบัติกัน แต่แท้ที่จริงแล้วพวกเรารักใคร่ปรองดองกัน ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง

โดยเฉพาะเรื่องของผลประโยชน์จากสถาบันกวดวิชาแอพพลายด์ฟิสิกส์

ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้เท่ากัน เพราะหลังจากน้องชายแบ่ง รายได้ส่วนหนึ่งให้พ่อและแม่เป็นอันดับแรกแล้ว

ส่วนที่เหลือจะเป็นกองกลางแบ่งให้พี่น้องคนอื่นๆ


โดย หมอประกิตเผ่าจะได้เยอะที่สุด เนื่องจากเป็นผู้บริหารและสอนลูกศิษย์ ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากเรื่องมรดกแน่นอน

แต่มาจากกลุ่มบุคคลที่เข้ามาทำให้น้องชายเสียสติ คิดไปต่างๆนานาว่าจะมีคนในครอบครัวคอยจ้องทำร้าย บางครั้งคิดว่าเมียตัวเองทำคุณไสยใส่

ถึงขั้นสวมเสื้อเกราะพกปืน

คนในครอบครัวเห็นแล้วเกรงจะไม่ ปลอดภัย จึงไปปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลศรีธัญญา แพทย์บอกเป็นหนักแล้วให้รีบนำตัวไปรักษา

นพ.ประกิตพันธ์กล่าวต่อว่า


ตนยอมรับว่าสนิทกับ นพ.ไพฑูรย์ สมุทรสินธุ์ แพทย์เจ้าของไข้ จึงไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา อีกอย่างหนึ่งคือโรงพยาบาลอยู่ใกล้บ้านไปมาสะดวก ไม่คิดว่าจะกลายเป็นข่าวทำให้ ครอบครัวเสียหาย แต่ถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นข่าวไปแล้ว เราก็ต้องรักษาหมอประกิตเผ่าให้หาย

ยังเชื่อว่าถูกกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งหว่านล้อมต่างๆนานา

วางแผนทำให้น้องชายเสียสติจนป่วย และยังทำให้โรงพยาบาลศรีธัญญา เสียชื่อทำให้แพทย์เจ้าของไข้ และ ผอ.โรงพยาบาลศรีธัญญา หนักใจ ถึงตอนนี้ก็ยังอยากให้หมอประกิตเผ่ามารักษาตัวที่เดิม เพราะไปอยู่ที่อื่นเราไม่สบายใจ

ส่วนเรื่องที่เอาตำรวจมาคุมเพราะกลัวคนมาลักพาตัวไป หรือเอาไปทำร้าย

ขอยืนยันว่าห้องที่พักรักษาตัวไม่มีการคุมขังแต่อย่างใด ญาติไปเยี่ยมได้ ตัวหมอเองก็ไม่มีการวิกลจริตอะไรมากมาย แต่น้อยใจคุณแม่เล็กน้อย ทำนองว่าเอาไปโรงพยาบาลทำไม ไม่ได้บ้า หลังเกิดเรื่องขึ้นทางสถาบันกวดวิชาเริ่มมีปัญหา พ่อแม่ผู้ปกครองเริ่มไม่สบายใจ ทำ ให้ยอดนักเรียนที่ไปสมัครเรียนตกลงมาก บางคนสมัครแล้วไปขอเงินคืน

ตอนนี้อยากให้น้องชายหายเร็วๆ

เพราะสงสารเด็ก ลูกๆ 2 คนของหมอประกิตเผ่าคิดถึงพ่อตลอด คนเล็กเป็นชายอายุ 9 ขวบ ถามว่าพ่อป่วยจริงหรือเปล่าอยู่ที่ไหน อยากบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจากบุคคลที่ 3 เข้ามาสร้างปัญหาหลายๆด้าน

จากนั้นได้แจกเอกสารลำดับเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา


ความยาว 5 หน้ากระดาษ พร้อมประเด็นที่ต้องการให้สังคมรับทราบ รวม 7 ข้อ เนื้อหาโดยย่อคือ 1. นพ.ประกิตเผ่า ป่วยทางจิตจริง โดยมีการยืนยันจากราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย

ซึ่งได้ส่งตัวแทนมาตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลศรีธัญญาหลังจากมีข่าวเกิดขึ้น

2. สาเหตุการเจ็บป่วยทางจิตสันนิษฐานได้ว่า

เกิดจากรับสารที่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาทเป็นเวลานาน

ซึ่งจากการลำดับเหตุการณ์ย้อนหลัง


ผู้ป่วยน่าจะถูกมอมยาด้วยสารเอฟีดรีนจากกลุ่มบุคคลโดยการใช้จิตวิทยาหมู่ โดยใส่ความคิดว่าภรรยาต้องการฆ่าฮุบสมบัตินานเป็นเวลาหลายเดือน พร้อมเพิ่มปริมาณยาขึ้น

ซึ่งในประเด็นนี้มีการพาดพิงถึง น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต เพื่อนสาวคนสนิทของ นพ.ประกิตเผ่า นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

3. ชี้แจงถึงการนำตัว นพ.ประกิตเผ่าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีธัญญา

โดยระบุว่า เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย ไม่ใช่ต้องการหน่วงเหนี่ยวกักขังแต่อย่างใด

4. ชี้แจงถึงสาเหตุที่ครอบครัวไม่ต้องการให้ผู้ป่วยไปศาล เพราะ


ไม่อยากให้ถูกกระตุ้นจากฝ่ายตรงข้าม พร้อมขอบคุณในความกรุณาของศาลที่เดินเผชิญสืบด้วยตนเอง

5. ชี้แจงสาเหตุที่พา นพ.ประกิตเผ่าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีธัญญา เพราะแพทย์ผู้ทำการรักษารู้จักกับ นพ.ประกิตพันธ์ จริง แต่ไม่ได้สนิทสนมมากตามที่ถูกกล่าวหา

6. การที่ต้องให้ผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลนั้น เนื่องจากแพทย์จากราชวิทยาลัยจิตแพทย์ลงความเห็นแล้ว และ

7. รู้สึกเป็นห่วงที่ นพ.ประกิตเผ่า ถูกส่งตัวไปรักษาที่อื่น เนื่องจากเกรงว่าจะถูกกระตุ้นให้หลงผิดจากฝ่ายตรงข้าม ที่อาจจะพยายามกระทำทุกวิถีทางให้เกิดการกระตุ้นอาการขึ้นใหม่

ในเอกสารดังกล่าวยังระบุ

ชื่อกลุ่มบุคคลที่ร่วมมือกับ น.ส.เปมิกา ประกอบด้วย คุณแนน คุณแนทโซ่ พร้อมเพื่อนชาย ดร.ตั้ม รวมทั้ง

หนุ่มผอมผิวดำ
ผมถัก
มีเครา

โดยขอให้บางคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าทำอะไรลงไป และต้องการให้ข้อมูล ติดต่อเข้ามาจะให้ความช่วยเหลืออย่างถึงที่สุด พร้อมระบุชื่อ รศ.เพลินจิต ทมชิตชงค์ ไว้ในตอนท้าย จากนั้นการแถลงข่าวจึงยุติลงหลังจากใช้เวลาประมาณ 1 ชม.เศษ

ด้าน น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์


ในเรื่องที่ญาติใกล้ชิดของ นพ.ประกิตเผ่า ออกมาแถลงข่าวว่า ตนคงไม่ออกไปตอบโต้ข้อกล่าวหาใดที่ครอบครัว ทมทิตชงค์ พยายามให้ร้าย เพราะถือว่าได้ทำหน้าที่อย่างบริสุทธิ์ใจและดีที่สุดแล้ว

เมื่อกระบวนการต่างๆอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

คงต้องให้ศาลชี้ขาดในวันที่ 9 มี.ค. ดีกว่า อีกอย่างวันนี้เป็นวันมาฆบูชาเป็นวันพระ เอาเวลาไปสวดมนต์ ทำบุญไหว้พระดีกว่า

ขณะที่นายสราวุธ เบญจกุล โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม


กล่าวถึงกรณีที่ศาลออกไปเผชิญสืบดูอาการของ นพ.ประกิตเผ่าว่า

ที่ผ่านมาประชาชนจะไม่ค่อยรับรู้เรื่องนี้เท่าไหร่ แต่สำหรับศาลแล้วถือเป็นเรื่องปกติ การที่ออกไปเผชิญสืบนั้น ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่พยานไม่สามารถมาเบิกความได้หรือศาลต้องการไปดูสถานที่เกิดเหตุ เพื่อให้เห็นสถานที่จริงเป็นต้น

และส่วนที่มีคำสั่งให้นำตัว

นพ.ประกิตเผ่าไปรักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เนื่องจากไม่ต้องการให้มีข้อโต้แย้งระหว่างแพทย์กับตำรวจ จึงหาหน่วยงานกลางเข้ามาดูแลวิเคราะห์ผู้ป่วยว่าสาเหตุมาจากอะไร ไม่ใช่ว่ามีความเชื่อถืออะไรเป็นพิเศษ

ในช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม


สถานที่พักรักษาตัว นพ.ประกิตเผ่า มีสื่อมวลชนสาขาต่างๆประมาณ 10 คน ติดต่อผ่าน รปภ.เพื่อขอเข้าไปทำข่าวความเป็นอยู่ของ นพ.ประกิตเผ่า แต่ถูกปฏิเสธกลับมา โดยอ้างว่าเป็นวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 3-5 มี.ค. เนื่องในวันมาฆบูชา

ประกอบกับผู้บังคับบัญชากำชับลงมาว่า ห้ามญาติผู้ป่วย แพทย์ผู้ที่ไม่ได้ทำการรักษา ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมทั้งนักข่าวเข้าพบ นพ.ประกิตเผ่า อย่างเด็ดขาด เนื่องจากเป็นคำสั่งศาล ทั้งหมดจึงเดินทางกลับ

ส่วนบรรยากาศที่สถาบันแอพพลายด์ฟิสิกส์ สยามสแควร์ ซอย 6


ภายหลังจากประกาศยกเลิกการสอนสดในคอร์สวิชาฟิสิกส์ ม.4 (พื้นฐาน) คอร์สฟื้นฟูความรู้ ม.4-ม.5 และคอร์สเอ็นทรานซ์เพื่อสอบตรงและแอดมิสชั่น โดยให้นักเรียนเรียนจากวีดิโอเทปแทนนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันยังมีนักเรียนทยอยไปเรียนกันแน่นเกือบทุกที่นั่ง

ไม่มีนักเรียนคนใดมาติดต่อขอเงินค่าเรียนคืนแต่อย่างใด

ขณะที่นายพัฒน์พงษ์ ลิมปะพันธุ์ ผู้ดูแลสถาบันประจำสำนักงานสยามสแควร์ เปิดเผยว่า ภายหลังที่ครอบครัวทมทิตชงค์เปิดบ้านแถลงข่าวไปในช่วงเช้า

ปรากฏว่ามีผู้ปกครองและนักเรียนโทรศัพท์มาให้กำลังใจ อ.ช่วง-เพลินจิต ทมทิตชงค์ และ นพ.ประกิตเผ่าเป็นจำนวนมาก

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์