พิษบาทแข็ง เสี่ยพันล้านฆ่าตัวตาย

"เสี่ยพันล้านเครียดยิงตัวตาย"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. วานนี้ (2 มี.ค.) ร.ต.ต.ธงทอง เอี่ยมเวียง ร้อยเวร สภ.อ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งเหตุคนยิงตัวตายที่บ้านเลขที่ 67/109 หมู่ 6 ต.ท่าทราย จึงรายงานให้ พล.ต.ต.สมพงษ์ สำราญสุข ผบก.ภ.จ.สมุทรสาคร พ.ต.อ.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ ผกก.สภ.อ.เมืองสมุทรสาคร นำกำลังตำรวจ พร้อมประสาน พ.ต.ท.เกษม รัตนาวิทย์ รอง ผกก.หน. วิทยาการจังหวัดสมุทรสาคร แพทย์เวร รพ.สมุทรสาคร ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นคฤหาสน์ทรงยุโรปหลังใหญ่ ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา บริเวณห้องโถงบนชั้น 2 พบศพนายสำเริง เทียนย้อย อายุ 50 ปี เจ้าของบ้าน นั่งคอพับจมกองเลือดอยู่บนโซฟา สภาพศพสวมเสื้อยืดคอปกสีเหลือง กางเกงสแล็กขายาวสีกรมท่า มีบาดแผลถูกยิงที่ลำคอด้านขวาทะลุขมับซ้าย ข้างศพพบปืน 9 มม. มีกระสุนบรรจุในแมกกาซีน 12 นัด โดยมีปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันตกอยู่ 1 ปลอก ส่วนในกระเป๋ากางเกงด้านขวา พบถุงยาจาก รพ.บางมด ที่ผู้ตายไปพบแพทย์เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ประกอบด้วยยาลดไขมัน ยาแก้ปวด ยาป้องกันเส้นเลือดอุดตัน ยาคลายเครียด และยาฆ่าเชื้อแก้อักเสบ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

"มีทรัพย์สินกว่า พันล้านเครือสหยูเนี่ยน"


สอบสวนทราบว่า นายสำเริงผู้ตายเป็นเสี่ยใหญ่นักธุรกิจทางด้านอุตสาหกรรมประมงต่อเนื่อง ประเภทห้องเย็นและอาหารทะเลแช่เยือกแข็งส่งออกนอก ระดับแนวหน้าของ จ.สมุทรสาคร เป็นผู้นำด้านธุรกิจผลิตกุ้งแช่แข็ง บริการรับฝากสินค้าแช่แข็ง มีทรัพย์สินไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท โดยมีบริษัทที่อยู่ในความดูแลของเครือสยามยูเนี่ยนกรุ๊ปทั้งหมด 4 บริษัทด้วยกัน ประกอบด้วย บริษัทเกาะสมุทรซีฟู๊ดส์ จำกัด บริษัท สยามยูเนี่ยนโฟรเซ่นฟู๊ดส์ จำกัด บริษัทเกาะสมุทรโฟรเซ่นฟู๊ดส์ จำกัด และบริษัท แพสำเริง ต. จำกัด นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งประธานชมรมผู้ค้ากุ้งไทยด้วย

นายรุ่งโรจน์ เทียนย้อย ลูกชายผู้ตายให้การทั้งน้ำตานองหน้าว่า บิดาพักอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวกับมารดา และแม่บ้านอีก 2 คน ส่วนตนพักอยู่บ้านอีกหลังในบริเวณเดียวกัน ก่อนหน้านี้บิดามักจะบ่นว่าเครียดเรื่องงาน อาจเป็นชนวนเหตุให้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย ด้านนายภธารณ์ อมราภรณ์ อายุ 45 ปี คนขับรถผู้ตายให้การว่า พักอยู่บ้านคนละหลัง ปกติผู้ตายมักจะออกไปทำงานแต่เช้า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 08.00 น. ยังไม่ออกจากบ้านจึงโทรศัพท์ขึ้นไปตาม ผู้ตายรับสายบอกว่าสักพักจะลงไป รออยู่นานผิดปกติจึงขึ้นไปตามก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่าเป็นศพยิงตัวตายแล้ว โดยก่อนหน้านี้ผู้ตายมักจะบ่นให้ฟังเสมอว่าเครียดเรื่องงาน ก็พยายามพูดคุยปลอบใจแต่ไม่กล้าซักถามอะไรมาก

"เหตุค่าเงินแข็งตัว ปัญหาขาดทุนในการส่งออก"


ส่วน น.ส.วอย อายุ 24 ปี และนางตะวัน อายุ 25 ปี แม่บ้านชาวพม่าที่พักอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุให้การว่า ภรรยาของผู้ตายออกไปทำงานที่บริษัทตั้งแต่เช้า ขณะตนทั้งคู่ทำงานอยู่ภายในบ้าน ได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แต่ไม่รู้ว่าดังมาจากจุดไหน และไม่เห็นมีสิ่งผิดปกติ จึงทำงานต่อ ผ่านไปประมาณ 10 นาที คนขับรถขึ้นไปตามผู้ตายบนบ้านก็พบศพดังกล่าว

ร.ต.ต.ธงทอง เอี่ยมเวียง ร้อยเวรเจ้าของคดีกล่าวว่า ผู้ตายประกอบธุรกิจส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งไปต่างประเทศ อาจขาดเงินทุนหมุนเวียนจนธุรกิจขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้เครียดจัดตัดสินใจยิงตัวตาย ได้ตรวจหาคราบเขม่าที่มือของผู้ตาย พร้อมส่งปืนไปตรวจที่กองวิทยาการแล้ว ขณะเดียวกันจะนำตัวสาวใช้ 2 คนที่อยู่ในบ้าน และคนขับรถที่ขึ้นไปพบศพเป็นคนแรก ไปสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง

มีรายงานจากแหล่งข่าวในวงการธุรกิจส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งว่า จากสภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์ สหรัฐฯอ่อนตัวลงและเงินบาทแข็งค่าขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการส่งออก บางรายถึงกับขาดทุนย่อยยับ ประกอบกับมีกระแสข่าวเรื่องที่สหรัฐอเมริกาจะทำสงครามกับอิหร่าน ทำให้คู่ค้าบริษัทต่าง ๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดใหญ่ชะงักการสั่งสินค้าเพื่อรอดูสถานการณ์ อีกทั้งมีการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราสินค้าและมีขั้นตอนต่างๆ ยุ่งยากมากขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายผู้ประกอบการส่งออกสูงขึ้นจนประสบสภาวะขาดทุนไปตามๆกัน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์