ชาวบ้านแอนตี้แม่ครัวปลานรก

บุกไปด่าถึงบ้านร้านฟุ้งลูกค้าตึม


แม่ครัวปลาสองแผ่นดิน ถูกเพื่อนบ้านอัดยับทั้งหมู่บ้าน บุกมากดดันถึงบ้านให้ลาออกจากร้าน เพราะถือว่าผิดศีลและโหดเกินมนุษย์ แจงยันต้องทำเพราะเป็นอาชีพ ส่วนเจ้าของร้านระบุมีลูกค้าประจำสั่งกินประจำ เผยฝรั่งอิตาลีมาขอสูตร หลังทราบข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ ซินแสจีนยันเป็นเมนูที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายตามความเชื่อของจีนโบราณ ในขณะที่ลูกค้าคอสุรายังแห่ชิมแน่นร้าน

จากกรณีร้านอาหารเตชินท์ เปิดเมนูเด็ด "ปลาสองแผ่นดิน" ที่ใช้ปลาเก๋าเป็นๆ นำมาขอดเกล็ดทั้งที่ยังดิ้นอยู่ ก่อนนำผ้าเย็นพันที่หัวจนถึงพุงแล้วนำไปทอดจนสุก ในขณะที่ปลาจะดิ้นพล่าน แล้วก็นำเสิร์ฟพร้อมด้วยผักสด โดยน.ส.อัญชลี ขุนฤทธิ์ อายุ 30 ปี เจ้าของร้านอ้างว่าได้รับสูตรมาจากคุณปู่ ชาวจีนอพยพมาจากประเทศจีน กินตามความเชื่อว่าจะเพิ่มสมรรถภาพทางเพศและเสริมพลังให้กับร่างกาย สำหรับนักชิมที่เชื่อต่างยืนยันว่ามีผลต่อร่างกายจริงและจะกินเป็นประจำ นอกจากนี้ทางร้านยังได้เปิดตัวเมนูสยองอีกหนึ่งเมนู คือเมนูปูไต่ ซึ่งเป็นปูเนียมเป็นๆ มีลักษณะคล้ายกับปูลม นำมาแช่ในน้ำปลาที่ปรุงรส เสิร์ฟพร้อมพริกขี้หนูและข้าวสวยร้อนๆ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้ว

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านอาหารเตชินท์ เจ้าของสูตรอาหารสุดสยอง ปลาสองแผ่นดิน และปูไต่ พบกับ น.ส.อัญชลี ขุนฤทธิ์ เจ้าของร้านเปิดเผยว่า เมื่อคืนได้มีแขกเข้ามาในร้านจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต่างก็ต้องการมาพิสูจน์เมนูที่เสนอข่าวไปและยังมีชาวต่างชาติ มิสเตอร์มัลชินี และพรรคพวกชาวอิตาลี ได้เดินทางมาที่ร้านพร้อมทั้ง

"เพื่อนบ้านรุมกล่าวว่า ไม่เหมาะสมเป็นการทรมานสัตว์"


หนังสือพิมพ์ข่าวสดเข้ามาสอบถามว่าใช่ร้านเดียวกับที่ลงในหนังสือพิมพ์ข่าวสดหรือไม่ ตนก็บอกว่าใช่ หลังจากนั้นชาวอิตาลีที่พอพูดไทยได้บ้าง ได้บอกว่าต้องการทราบถึงรายละเอียดของสูตรปลาสองแผ่นดินและยังได้ทดลองชิม แต่ก็บอกว่ารสชาติเหมือนปลาทอดทั่วไปและยังได้กินเนื้อปลาดิบๆ กับวาซาบิ นอกจากนี้ตนยังได้นำเอาเมนูปูไต่ ให้ทดลองชิม ถึงกับยกนิ้วบอกว่าหอมและมัน แต่ไม่ชอบเผ็ด หลังจากนั้นก็ได้จดสูตรเคล็ดลับให้ไป

ด้านนางสังวาลย์ อยู่ในสุข อายุ 50 ปี แม่ครัวผู้เป็นคนปรุงปลาสองแผ่นดิน เปิดเผยว่า หลังจากที่มีข่าวนำเสนอไป ก็ได้มีเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน เข้ามาต่อว่าถึงบ้าน บอกให้ลาออกจากร้านดังกล่าว เพราะถือว่าเจ้าของพิสดารและต่างก็บอกว่าบาปอย่าได้ทำอีกเลย ตนก็ยอมรับและบอกมันคืออาชีพ ถ้าตกงานก็ไม่มีเงินและก็เห็นว่าเป็นอาหาร ส่วนใหญ่ตนก็ไม่ได้ทำเอง ทางเจ้าร้านจะเป็นคนทำเองเสียส่วนใหญ่ แต่ก็ยอมรับว่าคิดมากและจะบอกว่าจะขอหยุดทำเมนูดังกล่าว เพราะกลัวจะถูกต่อว่าและบาป

ส่วนนายลูเล้ง แซ่แต้ อายุ 80 ปี ซินแสชาวจีนกล่าวว่า สูตรดังกล่าวนั้นมีมานานแล้วที่ประเทศจีน และยังสามารถดัดแปลงได้หลากหลาย เช่นการนำเอาปลาไปลวกแล้วราดด้วยน้ำปรุงจากเครื่องยาจีน ก็เป็นที่นิยมกินกันในประเทศจีนและตนเองก็กินมาตลอด ส่วนหัวที่เหลือก็จะนำไปลวกไม่ต้องสุกมาก แล้วนำมาจิ้มซอสเปรี้ยว พร้อมด้วยการนำกระดูกและหัวปลาไปต้มเคี่ยวกับสูตรยาจีนผสมโสม ก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ส่วนใหญ่คนรุ่นใหม่จะไม่กล้ากินโดยเฉพาะผู้หญิงจะกลัวบาป จึงทำให้เมนูนี้ไม่เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับชาวระยองหลังจากที่เสนอข่าวออกไป ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าไม่เหมาะสมกับความคิดดังกล่าว เพราะเป็นการทรมานสัตว์ และต้องการให้หยุดการกระทำดังกล่าวเสีย เพราะถือเป็นเมนูที่โหดร้ายทารุณ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์