ศาลจำคุก34ปีหนุ่มอังกฤษทุบหัวฆ่าเมีย

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ สนามหลวง ศาลอ่านคำพิพากษาคดีความผิดต่อชีวิต ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายสจ๊วต คีธ แม็กคลาวด์ อายุ 42 ปี สัญชาติอังกฤษ พนักงานบริษัท ทรู คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและซ่อนเร้นทำลายศพ แจ้งข้อความเท็จต่อเจ้าพนักงาน

โจทก์ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2548 จำเลย และนางนภาพร เปลี่ยนพุ่ม เพื่อนสาวคนไทยเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อว่า นางบาบาร่า ลินซ์ แม็กคลาวด์ ภรรยา อายุ 35 ปีสัญชาติแคนาดา ภรรยา ทำงานอยู่ที่บริษัท ฮัทชิสัน หายไปจากบ้านเลขที่ 84 ซอยสุขุมวิท 20 ย่านทองหล่อ ขณะเจ้าหน้าที่สืบหาตัว รับแจ้งว่าพบศพหญิงชาวต่างชาติที่จุดทิ้งขยะในซอยสุขุมวิท 20 ห่างจากบ้านพักจำเลยเล็กน้อย

เมื่อตรวจสอบ พบศพนางบาบาร่านอนตายอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ สวมชุดราตรี จากการสอบสวนรปภ.ของคอนโดมิเนียมใกล้ที่เกิดเหตุ ให้การว่า ได้ยินเสียงสุนัขเห่าในเวลา 04.00 น. จึงออกมาดู

พบชาวต่างประเทศนำวัตถุขนาดหนักมาทิ้ง และเมื่อพาพยานไปดูตัวจำเลยก็สามารถชี้ตัวได้ถูกต้องว่า เป็นคนเดียวกันที่พยานเห็นในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาดำเนินคดี

จำเลยให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่าภรรยาตัวเองจริง แต่กระทำไปโดยบันดาลโทสะ โดยพักอยู่เมืองไทยมานาน 6 ปี วันเกิดเหตุผู้ตายเมาไวน์จนเกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน โดยกล่าวหาว่าตนมีชู้กับหญิงไทย และใช้ขวดไวน์ตีท้ายทอยของจำเลยจนบาดเจ็บ จำเลยจึงคว้าค้อนเหล็กตีสวน ถูกผู้ตายที่ศีรษะ 5 ครั้ง เมื่อเห็นว่าเสียชีวิตแล้ว จึงนำศพไปทิ้ง จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยสถานเบา

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิจารณาจากลักษณะบาดแผล อาวุธที่ใช้ ประกอบพฤติการณ์ในการกระทำ เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า กรณีทะเลาะกัน ไม่ถือว่าเป็นบันดาลโทสะ จำเลยจะอ้างมาเป็นเหตุขอรับโทษสถานเบาไม่ได้ พิพากษาว่าจำเลยทำผิดตามฟ้องลงโทษจำคุกตลอดชีวิต คำรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ คงลดโทษให้จำคุก 34 ปี 1 เดือน