รวบได้ยกแก๊ง! สังหาร´เมียฝรั่ง´

จากคดีสังหารโหดนางนงนุช คงปลื้ม อายุ 46 ปี ภรรยานายแฮรี่ ทาวันโด อายุ 67 ปี นักธุรกิจชาวฮอลแลนด์ เจ้าของบริษัทนาคารีสอร์ท จำกัด และเป็นเจ้าของโครงการ อสังหาริมทรัพย์หรูบริเวณริมชายหาดกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ถูก 2 มือปืนทมิฬควบรถจักรยานยนต์ ประกบยิงเสียชีวิตหน้าโรงแรมเดอะคลับเรสซิเด้นท์ ถนนพระบารมี ต.กมลา ช่วงค่ำวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น

ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้จ้างวานและแก๊งมือปืนได้แล้ว โดยเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ก.พ.ที่ห้องประชุม สภ.อ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ต.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชลิต ถิ่นธานี รอง ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต พ.ต.ท.สุตรีธา อ่อนสด รอง ผกก.หน. สภ.ต.กมลา และ พ.ต.ต.วรวัฒน์ สุทธินุ่น สวป.สภ.ต.กมลา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาฆ่านางนงนุช ประกอบด้วย 1.นางจุไรวัลย์ หรืออิ๊ด สมิธ อายุ 36 ปี เจ้าของบริษัทรับทำบัญชีและภาษีแห่งหนึ่งใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ผู้จ้างวาน 2.นายประสิทธิ์ สุวรรณมณี อายุ 29 ปี 3.นายอมร หรือมอญ บุญทอง อายุ 46 ปี และ 4. นายวิชิต หรืออ้น นุ่มนวล อายุ 35 ปี

พล.ต.ต.เดชากล่าวถึงแนวทางการสืบสวนคดีดังกล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีได้สืบสวนสอบสวนจนทราบว่าก่อนหน้านี้บริษัทของนายแฮรี่ได้ ว่าจ้างนางจุไรวัลย์ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทบัญชีและภาษี เป็นผู้ดูแลด้านบัญชีและการเงินต่างๆของบริษัท และมอบตรายางของบริษัทที่ใช้ประทับบนเอกสารคู่กับลายมือของนายแฮรี่ในการสั่งจ่ายเงินต่างๆเป็นผู้เก็บรักษาไว้

กระทั่งเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา นายแฮรี่ได้มาอยู่กินกับนางนงนุช พร้อมทั้งเตรียมมอบอำนาจต่างๆในบริษัทให้กับภรรยาเป็นผู้ดูแล ผู้ตายจึงได้เรียกคืนตรายางของบริษัทจากนางจุไรวัลย์ สาเหตุดังกล่าวทำให้ชุดสืบสวนมั่นใจว่านางจุไรวัลย์น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว เนื่องจากการมาของนางนงนุช ทำให้ตัวเองหมดอำนาจหรือสูญเสียผลประโยชน์จากที่ตัวเองเคยได้รับ

ต่อมาชุดสืบสวนได้เชิญตัวนางจุไรวัลย์และนายประสิทธิ์ ซึ่งเป็นพนักงานในบริษัทบัญชีและยังเป็นลูกน้องคนสนิทมาสอบปากคำ โดยนางจุไรวัลย์ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น แต่นายประสิทธิ์กลับให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนางจุไรวัลย์ให้สังหารนางนงนุช จึงไปปรึกษากับนายวิชิตให้ช่วยจัดหามือปืนเป็นเงิน 110,000 บาท

โดยจ่ายค่ามัดจำ 50,000 บาท นายวิชิตจึงว่าจ้างนายอมร ซึ่งมีบ้านอยู่ใน ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี หลังรับงานนายอมรจึงให้นายสินชัย คงหอม อายุ 35 ปี มือปืนที่อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมเป็นคนลั่นไกและให้นายวิชิตทำหน้าที่เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ โดยก่อนเกิดเหตุนายประสิทธิ์ได้พาแก๊งมือปืนไปดูตัวนางนงนุชเพื่อไม่ให้พลาดเป้า

ผบก.ภ.จ.ภูเก็ตกล่าวอีกว่า ในวันเกิดเหตุช่วงบ่ายวันที่ 23 ก.พ. นายประสิทธิ์ได้นัดให้แก๊งมือปืนทั้งหมดมารวมตัวกันที่โรงแรมแฮปปี้อินน์ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต พร้อมโทรศัพท์ไปหานางนงนุชอ้างจะส่งมอบตรายางบริษัทตามที่ผู้ตายต้องการ โดยนัดหมายกันบริเวณโรงแรมเดอะคลับเรสซิเด้นท์ กระทั่งถึงเวลานัดหมาย นายวิชิตได้ขี่รถจักรยานยนต์พานายสินชัย

มือปืนประกบยิงผู้ตายขณะเดินอยู่หน้าโรงแรมก่อนแยกย้ายกันหลบหนี จากนั้นวันที่ 25 ก.พ. นายประสิทธิ์ได้นัดจ่ายเงินส่วนที่เหลืออีก 60,000 บาท ให้กับนายอมรและนายวิชิตที่น้ำตกบางสวรรค์ ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้วางแผนติดตามจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้ในที่สุด เหลือเพียงนายสินชัย มือปืนที่หนีรอดไปได้ ส่วนนางจุไรวัลย์ ผู้จ้างวานที่ยังให้การปฏิเสธก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา