วันนี้ ( 8 ก.พ.) ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป.พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป.แถลงข่าวความคืบหน้าการสอบสวนคดีหลอกลวงขายตุ๊กตาเฟอร์บี้ หลังจากมีกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมาก ทยอยเดินทางเข้าแจ้งความที่ บก.ป.และมีการเชิญตัวผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว เข้าให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวนตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า
กรณีการประกาศขายตุ๊กตาเฟอร์บี้ ผ่านทางอินสตาแกรม จนมีผู้หลงเชื่อสั่งซื้อและโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร นั้น ขณะนี้พบว่ามีผู้เสียหายเข้าแจ้งความทั้งสิ้น 52 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 6-7 ล้านบาท
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า นอกจากผู้เสียหายที่แจ้งความไว้แล้ว ยังน่าจะมีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมากในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งยังไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี อย่างไรก็ดี จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทางพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ได้ขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้แล้ว ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับ น.ส.ชนนิกานต์ ไตชิละสุนทร หรือติ๊บ อายุ 27 ปี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีแล้ว ภายหลังจากได้เชิญตัวเข้าให้ปากคำและพบหลักฐานบัญชีเงินฝากธนาคารที่ใช้ในการโอนเงินครั้งนี้
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ก็ให้ข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพนักงานสอบสวน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้อง บัญชีธนาคาร และข้อมูลในระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะยังเป็นเพียงคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาเท่านั้น โดยเฉพาะคนที่ชื่อ “แนท” คงต้องตรวจสอบต่อไปว่าเป็นใคร มีตัวตนจริงหรือไม่
ขณะที่ น.ส.ชนนิกานต์ กล่าวว่า ภายหลังทราบเรื่องก็รีบเข้าพบพนักงานสอบสวนทันที เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยให้ข้อมูลกับตำรวจว่ารู้จักกับคนที่ชื่อแนท ทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งติดต่อซื้อขายเครื่องสำอางบำรุงผิวพรรณกัน มีการติดต่อซื้อขายกันมานานกว่า 1 ปี แต่ไม่เคยพบหน้ากันเลย จากการค้าขายดังกล่าวคนที่ชื่อ แนท ติดหนี้ค่าขายสบู่ตนเป็นเงิน 4.9 แสนบาท โดยเขาอ้างว่ายังไม่มีเงินใช้หนี้ และชักชวนตนให้มาขายตุ๊กตาเฟอร์บี้ เนื่องจากเห็นว่าตนมีเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าอยู่แล้ว ประกอบกับเป็นเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่งซึ่งมีลูกค้าติดต่อซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก แต่ตนปฏิเสธ ซึ่งแนท ได้ขอชื่อและรหัสผ่านเข้าเว็บไซต์ตนเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการขายตุ๊กตา ซึ่งตนก็ให้ไป ทั้งนี้ ในระบบเว็บไซต์นั้น มีข้อมูลส่วนตัวของตนทั้งหมด รวมทั้งหมายเลขบัญชีธนาคารด้วย
น.ส.ชนนิกานต์ กล่าวอีกว่า ต่อมามีการประกาศขายตุ๊กตาเฟอร์บี้ ตามช่องทางต่างๆ ในอินเตอร์เน็ต โดยมีการให้ข้อมูลเลขที่บัญชีของตนไปเพื่อรับโอนเงิน ซึ่งหลังจากประกาศขายไป ทำให้มีลูกค้าจำนวนมากโอนเงินเข้ามา จากนั้นแนท ติดต่อขอให้ถอนเงินไปให้เขาโดยจะส่งคนขับรถจักรยานยนต์ไปรับเงิน ซึ่งตนก็ดำเนินการให้หลายครั้ง ส่วนเงินที่เบิกมาและส่งมอบให้นั้นมียอดเงินครั้งละ 4 แสนบาทบ้าง 5 แสนบาทบ้าง แต่ล่าสุดเป็นเงิน 1 ล้านบาท โดยคนขับรถจักรยานยนต์ มารับเงินสดที่บริเวณห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต สำหรับบัญชีเงินฝากของตน ที่ถูกนำไปใช้ เป็นเพราะแนท อ้างว่าเขาเป็นลูกครึ่งไทย-อิตาลี ไม่สามารถเปิดบัญชีเงินฝากได้เอง จึงขอนำบัญชีเงินฝากตนไปใช้ และให้ส่งเงินให้ด้วยวิธีการดังกล่าว
ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก เวลา 13.00น. ร.ต.ท.ปรีชา ศรีอุดม พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ควบคุมตัวน.ส.ชนนิกานต์ ไตชิละสุนทร อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 ม.1 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน มายื่นคำร้องขออำนาจศาล ฝากขังครั้งแรก โดยระหว่างควบคุมตัวน.ส.ชนนิกานต์ใช้เสื้อแจ๊ค เก็ตปิดบังใบหน้าตลอดเวลา
โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า น.ส.พลอย (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ได้เปิดร้านค้าออนไลน์ขายตุ๊กตา เฟอร์บี้ (Furby ) โดยโพสรูปสินค้าผ่านโปรแกรมอินสตราแกม ในชื่อ MAKE IT BY LOVE SHOP ซึ่งน.ส.พลอยจะสั่งซื้อตุ๊กตาจาก น.ส.ชนนิกานต์ ผู้ต้องหา อีกทอดหนึ่ง โดยขายให้ในราคาถูก เพราะมีสินค้าจำนวนมาก จนมีผู้เสียหายจำนวนมากหลงเชื่อสั่งซื้อสินค้า และโอนเงินเข้าบัญชีน.ส.พลอย ผ่านไปยังบัญชี ผู้ต้องหาที่ ธนาคาร กสิกรไทยฯ เลขที่บัญชี 730-2-80397-2 มูลค่าความเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายไม่สามารถส่งสินค้าให้ได้ ต่อมาผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบ
ต่อมาวันที่ 7 ก.พ. 56 เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 213/2556 ลงวันที่ 7 ก.พ. 2556 ดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
ทั้งนี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นต้องสอบปากคำพยานอีก 7 ปาก รอผลพิมพ์ลายนิ้วมือและรอเอกสารจากทางธนาคารและเอกสารทีเกี่ยวข้องในคดีจำนวนมาก ผู้ร้องจึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ไว้ระหว่างการสอบสวนมีกำหนด 12วันตั้งแต่วันที่ 8 - 19 ก.พ. นี้
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายสูง เกรงว่า หากได้รับการปล่อยชั่วคราวจะหลบหนี
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ตามที่ร้องขอ
ต่อมานายนิทัศน์ ไตชิละสุนทร บิดา ของ น.ส.ชนนิกานต์ ได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 1.7 ล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ทั้งผู้ยื่นประกันก็เป็นบิดาของผู้ต้องหาเองโดยใช้เงินสดเป็นหลักทรัพย์ จึงน่าเชื่อว่าหากปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาจะไม่หลบหนี จึงมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา โดยตีราคาประกัน 1.7 ล้านบาท