ตะลึง! ฉก 30 ล. เซฟร้านเพชร

ที่ สน.บางรัก เมื่อวันที่ 26 ก.พ. พ.ต.อ.อนุรักษ์ นาคพนม ผกก.สน.บางรัก พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประภาส อินตา รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.รุ่งศักดิ์ แสงเสียงฟ้า สว.สส.สน.บางรัก ได้เรียกประชุมฝ่ายสืบสวนสอบสวนเพื่อหารือเร่งรัดติดตาม

คลี่คลายคดีล่าตัวแก๊งคนร้ายบุกเข้าโจรกรรมยกตู้เซฟของบริษัทเอส บี เค เจมส์ อิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ต จำกัด เลขที่ 17 ถนนมหาเศรษฐ์ แขวง สี่พระยา เขตบางรัก กทม. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ได้ทรัพย์สินไปมูลค่า 30 กว่าล้านบาท

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนายสมบูรณ์ กนกมณีรัตน์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ถนนมหานคร แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม. เจ้าของบริษัทดังกล่าว ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยว กับจำหน่ายอัญมณีและเพชรพลอย ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สุริยา จำนงค์โชค พนักงานสอบสวน (สบ3) สน. บางรัก ว่า มีแก๊งคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ยกตู้เซฟขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของสำนักงานหายไปตอนกลางดึก วันที่ 20 ก.พ.

ภายในตู้เซฟมีทรัพย์สินเป็นเงินสดประมาณ 1 แสนบาท เงินเยนญี่ปุ่นราว 30 ล้านเยน หรือเทียบเท่าเงินไทย 10 ล้านบาท เงินดอลลาร์สหรัฐฯ 3 หมื่นดอลลาร์ หรือประมาณ 1 ล้านบาท นาฬิกาข้อมือโรเล็กซ์เรือนทอง 2 เรือน อัญมณีและพลอยเม็ดต่างๆ สมุดเงินฝากธนาคาร เช็คเงินสด รวมมูลค่าทั้งสิ้นราว 30 กว่าล้านบาท

นายสมบูรณ์ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ด้วยว่า ตัวเองพักอยู่บนชั้น 7 ของอาคารบริษัท ตอนเกิดเหตุ ไม่ได้ยินเสียงอะไรผิดปกติ มาทราบอีกทีว่า สำนักงานบริษัท ถูกงัดเมื่อตอนเช้า โดยคนร้ายยกเอาตู้เซฟหายไปแล้ว น่าเชื่อว่าต้องมีคนในรู้เห็นเป็นใจ

และสงสัยจะเป็นนายคำปั้น หรือฝัน วรรณสิน อายุประมาณ 30 ปี หัวหน้า รปภ. ที่เฝ้าอยู่ชั้นล่าง อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะหลังเกิดเหตุหายตัวไปไม่มาทำงานอีกเลย สอดคล้องกับพยานแวดล้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนยันเห็นนายคำปั้นพาพวกนั่ง รถกระบะสีแดง ไม่ทราบรุ่น ยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน ไปจอดซุ่มอยู่หน้าอาคารบริษัทในคืนวันนั้นด้วย

ต่อมา ฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ได้ตรวจสอบประวัติ นายคำปั้น วรรณสิน รปภ.ต้องสงสัยโจรกรรมยกตู้เซฟของนายจ้าง พบว่าถือสัญชาติลาว แต่ใช้หลักฐานปลอมเป็นคนไทยมาสมัครงาน รปภ.ที่บริษัทเกิดเหตุ พ.ต.ท.รุ่งศักดิ์ แสงเสียงฟ้า สว.สส.สน.บางรัก จึงแบ่งกำลังกันออกติดตามไปแนวชายแดนไทย-ลาว เขต จ.หนองคายแล้ว

เพราะคาดว่าอาจหนีข้ามประเทศกลับบ้านเกิดฝั่งลาว ขณะเดียวกัน ทีมสืบสวนอีกชุดสามารถจับกุมนายรุ่งโรจน์ ทองบุตรดี อายุ 21 ปี และนายทองแดง สีลารักษ์ อายุ 47 ปี ลูกสมุน ของนายคำปั้น ไปเค้นปากคำ กระทั่งรับสารภาพว่า นายคำปั้นเป็นผู้วางแผนพาพวก รวม 4 คน เข้าไปยกตู้เซฟจริง ก่อนนำเงินมาแบ่งกันแล้วแยกย้ายหนี