ยึดทรัพย์เจ้าของสถานทำแท้งเถื่อน

จ่อยึดทรัพย์เจ้าของสถานทำแท้งเถื่อน เจ้าตัวรับมีหญิงใจแตกใช้บริการไม่ต่ำกว่า 5 คนต่อวัน สร้างรายได้เดือนละครึ่งล้าน

ความคืบหน้ากรณีตำรวจศูนย์พิทักษ์เด็กเยาวชนและสตรี บช.ภ.3 จับกุม น.ส.ฌัชฌากานต์ มีสัจจ์ อายุ 27 ปี และนางชลดา ขับผักแว่น อายุ 40 ปี ได้ขณะใช้น้ำยาล้างห้องน้ำฉีดเข้าไปในช่องคลอดของหญิงสาวรายหนึ่งเพื่อให้หญิงคนดังกล่าวแท้งลูก ภายในบ้านพักหลังหนึ่งในตัวเมืองนครราชสีมา นั้นล่าสุด ตำรวจเตรียมขยายผลเพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ น.ส.ฌัชฌากานต์ และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนางสงวน เอกกลาง อายุ 60 ปี มารดา น.ส.ฌัชฌากานต์ หลังจากน.ส.ฌัชฌกานต์ให้การซัดทอดว่าเป็นผู้สนอวิธีการทำแท้งให้

พล.ต.ต.สุรสีห์ สุนทรศาลทูร รอง ผบช.ภ.3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็กเยาวชนและสตรี บช.ภ.3 กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า มีผู้เสียหาย 6 คน ซึ่งใช้บริการทำแท้งจาก น.ส.ฌัชฌากานต์ ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

โดยมีอาการไตวายและมดลูกเน่า ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้มีความรัดกุมเพื่อออกหมายจับนางสงวนซึ่งคาดว่าในเร็วๆ นี้น่าจะออกหมายจับได้

พล.ต.ต.สุรสีห์ กล่าวต่อว่า น.ส.ฌัชฌากานต์ รับทำแท้งให้แก่หญิงสาวจนมีเงินไปสร้างบ้านและซื้อที่ดินมีเนื้อที่ 200 ตารางวา เข้าค่ายความผิด พ.ร.บ.การฟอกเงิน ซึ่งจะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลให้ยึดทรัพย์ผู้ต้องหารายนี้ต่อไป

ด้าน น.ส. ฌัชฌากานต์ รับสารภาพว่า นางสงวน เป็นผู้เสนอวิธีทำแท้งโดยการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำฉีดเข้าช่องคลอด โดยให้บริการทำแท้งมานาน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาใจแตก จะคิดค่าบริการตามระยะเวลาการตั้งครรภ์ เช่น ท้อง 1 เดือน คิดค่าบริการ 2,000 บาท ถ้ามากกว่านั้นจะคิดเพิ่มเดือนละ 1,000 บาท ที่ผ่านมามีลูกค้าเข้าใช้บริการเฉลี่ย 5 คนต่อวัน ทำให้มีรายได้เฉลี่ย 3-5 แสนบาทต่อเดือน จนสามารถซื้อบ้านพร้อมที่ดินได้